หลังจากที่ Omega ได้เผยโฉมนาฬิกา Seamaster Aqua Terra Worldtimer 43mm นาฬิกาสปอร์ตคลาสสิกที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นบอกเวลาทั่วโลกแบบ Worldtimer ในปี 2020 ที่ผ่านมา ซี่งมีความโดดเด่นที่หน้าปัดโทนสีน้ำเงินยอดนิยมตลอดการ ที่สามารถบอกเวลา 24 เมือง ที่เป็นตัวแทน 24 เขตเวลาทั่วโลกอย่างแท้จริง และสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 150 เมตร ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันโดดเด่นของนาฬิกาจากตระกูล Seamaster มาอย่างยาวนาน
ปีนี้ Omega มีการอัพเดทคอลเลกชั่น Seamaster Aqua Terra Worldtimer 43mm อีกครั้ง โดยมีการเพิ่มรุ่นหน้าปัดโทนสีเขียวที่ตัดกับหลักชั่วโมงและชุดเข็มบอกเวลาทรง Broadarrow สีทองได้อย่างลงตัว พร้อมเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova และยังคงรายละเอียดบนหน้าปัดเหมือนรุ่นก่อนหน้าอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น การเซาะร่องและขัดแต่งแบบ Sun-Ray, ขอบหน้าปัดด้านนอกมีชื่อเมืองทั้ง 24 เมือง ตาม Timezone โดยเริ่มต้นที่ London ตัวอักษรสีแดงแทน GMT 0 ส่วน GMT +1 ทาง Omega เลือกใช้ชื่อเมือง ‘Bienne’ ที่สื่อถึงบ้านของ Omega หน้าปัดตรงกลางได้จำลองภาพของโลกเมื่อมองลงมาจากขั้วโลกเหนือไว้บนแผ่นไทเทเนียมเกรด 5 และสเกล 24 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นกลางวันกลางคืน สำหรับบอกเวลา 24 เมืองทั่วโลกพร้อมกัน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของนาฬิกา Worldtime รวมทั้งมีหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา และใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน
ในส่วนของตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 43 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 150 เมตร มีการเลือกใช้ขอบ Bezel แบบ Fixed ที่ผลิตจากวัสดุ Ceramic สีเขียว ที่สามารถทนทานต่อรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ฝาหลังขันเกลียวแบบโปร่งใสโชว์การทำงานของกลไก Automatic In-House Cal.8938 ความถี่ 25,200 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 60 ชั่วโมง มีความสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้สูงถึง 15,000 gauss โดยไม่ต้องใช้ Soft iron ขัดแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลาย Geneva Waves และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer มาพร้อมกับสายนาฬิกาแบบ Steel และมีรุ่นสายยางสีเขียวปั๊มลวดลายถักพร้อมเย็บด้ายสีเขียวลงไปกับ Folding Buckle Steel
นอกจากนี้ Omega ยังเปิดตัวรุ่นตัวเรือน Titanium ที่มาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีเทา ขอบ Bezel Fixed Caramic โทนสีเทา และมาพร้อมกับสายยางสีเทาปั๊มลวดลาายถักพร้อมเย็บด้ายสีเทาลงไปกับ Folding Buckle Steel มาเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชื่นชอบวัสดุ Titanium ที่มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี และไม่ระคายเคืองต่อผิวของผู้สวมใส่อีกด้วย
Omega Seamaster Aqua Terra Worldtimer 2023
Ref.220.32.43.22.10.001 – หน้าปัดสีเขียว สายยาง
ราคา 378,000 บาท
Ref.220.30.43.22.10.001 – หน้าปัดสีเขียว สาย Steel
ราคา 386,000 บาท
Ref.220.92.43.22.99.001 – Titanium สายยาง
ราคา 438,000 บาท
วางจำหน่าย มิถุนายน 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม omegawatches.com
Initial Thoughts
สีเขียวยังคงมาแรงอย่างแท้จริง เพราะก่อนหน้านี้ Omega เอาก็นำเอาสีเขียวมาใส่ในหน้าปัดคอลเลกชั่นต่าง ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างเช่น Seamaster Diver 300m ‘Green’ หรือ Speedmaster Moonwatch Professional Moonshine Gold 18K ซึ่งทุกรุ่นได้กลายเป็นแรร์ไอเท็มสำหรับนักสะสมไปเรียบร้อยแล้ว การมาของสีเขียวใน Seamaster Aqua Terra Worldtimer จึงน่าจับตาไม่น้อยสำหรับนักสะสมตัวจริง
