Oris มีพันธกิจสำคัญในการอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเลมาตลอด รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีวิตอยู่ในทะเล ด้วยการสร้างสรรค์นาฬิกาดำน้ำจากคอลเลกชั่น Aquis รุ่นพิเศษ เพื่อนำรายได้บางส่วนไปร่วมสนับสนุนองค์กรการกุศลที่เกี่ยวข้อง อาทิ นาฬิกา Aquis Blue Whale Limited Edition เพื่อช่วยรณรงค์ปกป้องและคุ้มครองปลาวาฬสีน้ำเงิน (Blue Whale) ในปี 2019
มาในปีนี้ Oris สร้างสรรค์เรือนเวลารุ่นพิเศษเพื่อร่วมสนับสนุนการทำงานของ Gerardo del Villar นักสำรวจและช่างภาพมากประสบการณ์ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Oris ที่เริ่มถ่ายภาพ ‘ฉลามวาฬ’ ปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรมากว่า 15 ปี โดยในปี 2016 สหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษณ์ธรรมชาติ หรือ UICN ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าประชากรฉลามวาฬทั่วโลกลดลงกว่าครึ่งหนึ่งในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา และใกล้จะสูญพันธุ์แล้วเนื่องจากปัญหาทางสิ่งแวดล้อมและการทำประมง
นาฬิการุ่นพิเศษเรือนนี้ใช้พื้นฐานจากรุ่น Aquis GMT Date ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 43.5 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยลวดลายที่สื่อถึงผิวหนังของฉลามวาฬบนหน้าปัดสีนำ้เงินไล่เฉด และการใช้สีส้มแต่งแต้มบนปลายเข็ม GMT และ Marker ตรงตำแหน่ง 24 ชั่วโมง บนขอบหน้าปัด Ceramic สีดำ-น้ำเงิน พร้อมชุดเข็มเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova มีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน
ฝาหลังขันเกลียวแบบปิดทึบสลักรูปฉลามวาฬและชื่อรุ่น ‘Whale Shark Limited Edition’ พร้อมระบุหมายเลขประจำเรือน XXXX/2016 เพื่อระลึกถึงปีแห่งการประกาศให้ฉลามวาฬเป็นจุดมุ่งหมายของ IUCN ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.798 (base Sellita 330-1) ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง
นาฬิกากันน้ำลึก 300 เมตร มาพร้อมสาย Stainless Steel และกล่องรุ่นพิเศษสีเทา ภายในพิมพ์ภาพฉลามวาฬและชื่อรุ่น ‘Whale Shark Limited Edition’ และข้อความ One of 2016
Oris Aquis Whale Shark Limited Edition
Ref.798 7754 4175-Set MB
ผลิตจำนวนจำกัด 2,016 เรือน
ราคา 115,900 บาท
วางจำหน่าย กุมภาพันธ์ 2021
รายละเอียดเพิ่มเติม oris.ch
Initial Thoughts
Oris เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ยังคงปณิธานที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่การช่วยเหลือสังคมมาตลอด ซึ่งสะท้อนให้เห็นทัศนคติของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี การได้เป็นเจ้าของนาฬิการุ่นพิเศษจากแบรนด์ก็เหมือนได้มีส่วนร่วมในการช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน