แม้ว่างาน Grand Prix de Monaco Historique หรืองานแข่งขันรถยนต์คลาสสิคที่มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากทั่วโลก ที่วางกำหนดการแข่งขันในช่วง 8-10 พฤษภาคม 2020 ณ ประเทศโมนาโก จะประกาศยกเลิกการแข่งขันไปแล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ก็ตาม แต่ TAG Heuer ในฐานะผู้สนับสนุนและบันทึกเวลาในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ได้เตรียมนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับการแข่งขันรายการนี้เอาไว้ และพร้อมเปิดตัวให้กับผู้รักความเร็วและเรือนเวลาในแบบคลาสสิคได้เตรียมเป็นเจ้าของกันในปี 2020 นี้
สำหรับนาฬิการุ่นพิเศษนี้ TAG Heuer เลือกนำนาฬิกา Monaco Calibre Heuer 02 ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดในคอลเลคชั่น Monaco ที่มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาของแบรนด์ Heuer ที่เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกับการแข่งขันรถยนต์ในช่วงปลายยุค 1950s และชื่อ Monaco ก็มีที่มาจากชื่อรายการแข่งขันที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย
ซึ่ง TAG Heuer เลือกใช้พื้นหน้าปัดสีเงินสลับกับหน้าปัดย่อยสำหรับจับเวลาสีแดงซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของรถสปอร์ตคลาสสิค และใส่โลโก้ของการแข่งขัน ‘Grand Prix de Monaco Historique’ ไว้ตรงตำแหน่งระหว่าง 1-2 นาฬิกา โดยมีการขัดแต่งลวดลาย Sunray บนผิวหน้าปัด หลักชั่วโมงแบบขีดด้านนอกและเข็มเคลือบ Rhodium สีเงินเงางามและแต้มด้วยสารเรืองแสง SuperLuminova® ส่วนเข็มวินาทีสำหรับจับเวลาเคลือบสีแดงเหมือนหลักชั่วโมงจุดไข่ปลาบนหน้าปัดด้านใน และเข็มวินาทีและมีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา
สำหรับตัวเรือน Stainless Steel ถูกออกแบบมาในแนวร่วมสมัย โดยใช้เส้นสายและรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาด 39 มิลลิเมตร มาจากนาฬิกา Monaco รุ่นคลาสสิค แต่เม็ดมะยมและปุ่มจับเวลาถูกวางเอาไว้ที่ด้านขวาของตัวเรือนทั้งหมด ฝาหลังแบบโปร่งใสโชว์กลไก Automatic In-House Cal.Heuer 02 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง
โดยมีการพิมพ์ชื่อการแข่งขัน ‘Grand Prix de Monaco Historique’ และสลักคำว่า ‘One of 1,000’ เพื่อยืนยันการผลิตแบบจำนวนจำกัด โดยนาฬิกามาพร้อมสายหนังวัวสีดำกับ Folding Buckle Stainless Steel ขัดเงา และใช้กระจกหน้าปัด Sapphire แบบนูน กันน้ำลึก 100 เมตร
TAG Heuer Monaco Grand Prix de Monaco Historique Limited Edition
Ref.CBL2114.FC6486
ผลิตจำนวนจำกัด 1,000 เรือน
ราคา 6,700 CHF
วางจำหน่าย สิงหาคม 2020
ที่ TAG Heuer Boutique ทั่วโลก
หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ tagheuer.com
Initial Thoughts
ถึงแม้ว่านาฬิกาเรือนนี้จะผลิตขึ้นสำหรับงานแข่งขันรถคลาสสิค แต่ TAG Heuer เลือกใช้พื้นฐานจากนาฬิการุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งมีดีไซน์การออกแบบร่วมสมัยเหมาะกับการแข่งขันรถยนต์ที่ร่วมสมัยเช่นกัน ส่วนราคาสูงกว่ารุ่นมาตรฐานอยู่ประมาณ 10% ก็ถือว่ารับได้กับความสวยแปลกตาและความ Limited Edition
