Casio เปิดตัวนาฬิกา G-Shock Full Metal รุ่นแรกในปี 2018 โดยนำรูปแบบจากรุ่น 5000 Series มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1983 ถูกคิดค้นและออกแบบโดยคุณคิคุโอะ อิเบะ วิศวกรหนุ่มไฟแรงที่เปรียบเสมือนบิดาผู้ให้กำเนิด G-Shock เรือนแรกของโลก และต่อเนื่องมาในปี 2019 เปิดตัวนาฬิการุ่น Limited Edition ที่เน้นตัวเรือนสีดำในรุ่น Full Metal Aged IP GMW-B5000V-1 วัสดุตัวเรือนและสาย Stainlee Steel เคลือบสีดำแต่มีการใช้เทคนิคการผลิตให้เหมือนนาฬิกาผ่านการใช้งานมาแล้ว และรุ่น Full Metal Titanium GMW-5000TB วัสดุตัวเรือนและสาย Titanium เคลือบสีดำด้าน เน้นไปที่น้ำหนักเบาสวมใส่สบาย
มาถึงปี 2020 Casio เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในคอลเลคชั่น Full Metal อีกครั้ง โดยยังคุมโทนสีดำตามมาตรฐานของ G-Shock พร้อมกับตัวเรือนสีเหลี่ยมขนาด 49.3 x 43.2 มิลลิเมตร และสาย Stainless Steel เคลือบสีดำด้าน และมีการใส่ลูกเล่นที่ลวดลาย ‘Grid’ หรือลายตารางบนขอบหน้าปัด, ตัวเรือน และสายนาฬิกาด้วยการใช้เลเซอร์ยิงลงไปบนผิวของโลหะ
นาฬิกามาพร้อมหน้าจอพื้นสีดำตัวเลขสีขาวแบบ Super Illuminator พร้อมระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติเวลาพลิกข้อมือดูเวลา โดยมีการใส่ลวดลาย ‘Grid’ ลงไปบนกระจกหน้าปัดให้เข้ากับตัวเรือน ฝาหลังขันเกลียวเคลือบผิวสีดำแบบ Diamond Like Carbon หรือ DLC และยิงเลเซอร์ลวดลาย ‘Grid’ ที่ขอบฝาหลัง
สำหรับฟังพ์ชั่นการใช้งานก็ตามมาตรฐาน G-Shock Full Metal ที่จับเวลาละเอียดระดับ 1/100 วินาที ต่อเนื่องสูงสุด 24 ชั่วโมง จับเวลาถอยหลัง ตั้งเวลาปลุก บอกเวลาแบบ World Time 300 เมืองทั่วโลก เชื่อมต่อกับ Smart Phone ผ่าน Applicatipn ‘G-Shock Connected’ สำหรับการปรับตั้งเวลาอัตโนมัติผ่านระบบ Bluetooth พร้อมคุณสมบัติทนทานการสั่นสะเทือน กันน้ำลึก 200 เมตร มีระบบ Power Saving Mode สำหรับประหยัดพลังงานในกรณีที่ไม่ได้ใส่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และมีระบบ Tough Solar สำหรับชาร์จพลังงานให้แบตเตอรี่จากแสงสว่าง
Casio G-Shock Full Metal ‘Grid‘
Ref.GMW-B5000CS
ราคา 37,000 บาท
วางจำหน่าย กรกฎาคม 2020
รายละเอียดเพิ่มเติม casio.com
Initial Thoughts
นาฬิกา Hi-End จาก G-Shock อีกรุ่น ที่เอาความคลาสสิคของรูปแบบตัวเรือนที่ออกแบบมาแล้วกว่า 37 ปี รวมกับเทคโนโลยีการใช้งานที่ทันสมัย เพิ่มความแข็งแรงและหรูหราด้วยวัสดุโลหะ ทำให้นาฬิการุ่นนี้น่าใช้งานและน่าสะสมไปพร้อมๆกัน
