หลังจากที่ Casio นำนาฬิกา G-Shock ในตระกูล 5000 series รุ่นคลาสสิคที่สุดของแบรนด์ ในฐานะจุดกำเนิดของ G-Shock ตัวแรก (DW-5000C) ที่แจ้งเกิดในปี 1983 ด้วยคุณสมบัติของความแข็งแกร่งและทนทาน มาผลิตด้วยวัสดุโลหะทั้งตัวเรือนและสายในช่วงกลางปี 2018 เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี ในชื่อ “Full Metal” และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Casio สร้างความฮือฮาให้กับวงการนาฬิกาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว GD-5000-9JR G-Shock Full Metal ที่ผลิตจากทองคำ 18 กะรัตทั้งตัวเรือนและสาย ผลิตแบบ Limited Edition 35 เรือน ราคา 7,700,000 JPY และตามมาด้วย GMW-B5000V-1 Limited Edition ที่เปิดตัวในงาน Baselworld 2019 และเพิ่งเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราเพียง 30 เรือนเท่านั้น ราคา 42,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็น G-Shock ที่ราคาสูงมากเมื่อเทียบกับรุ่น Full Metal ในเวอร์ชั่นปกติ ที่ราคาอยู่ที่ 23,000-26,000 บาท
วันนี้ G-Shock Full Metal ตัวใหม่มาแล้ว และเป็นโลหะขั้นสุดกว่าจากสเตนเลสสตีล นั่นคือ “ไทเทเนียม” ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ทนต่อการกัดกร่อนและปลอดสนิม น้ำหนักเบาเพียง 110 กรัม (รุ่นสเตนเลสสตีลหนัก 167 กรัม) ผิวของตัวเรือนและสายเคลือบ DLC สีดำด้าน ให้ความรู้สึกเหมือน DW-5000C รุ่นแรกที่ทำจากเรซิน หน้าจอ LCD ขาว-ดำ พร้อมไฟ LED สีขาวส่องสว่างในที่มืด เปิดปิดอัตโนมัติได้แค่พลิกข้อมือ หน้าปัดด้านในตัดขอบด้วยเส้นสีทองเข้ากับปุ่มด้านข้างตัวเรือนสีทองเช่นกัน ตัวเรือนภายในรองรับระบบกันสะเทือน ฝาหลังแบบขันเกลียว กันน้ำ 200 เมตร และใช้กระจกแซฟไฟร์เคลือบตัดแสงสะท้อน
ฟังก์ชั่นแบตเตอรี่ชาร์จด้วยพลังงานแสงที่สามารถเก็บพลังงานได้ 10 เดือนในโหมดปกติ และ 22 เดือนในโหมดประหยัดพลังงาน พร้อมบอกสถานะแบตเตอรี่ (L, M, H) รองรับระบบการเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน ผ่าน G-Shock Connected app บนมือถือ iOS และ Android บอกเวลาแบบเวิล์ดไทม์ ตั้งเวลาอัตโนมัติผ่านมัลติแบนด์ 6 จับเวลาได้ละเอียดสูงสุด 1/100 วินาที
Casio G-Shock GMW-B5000TB
ราคา 150,000 JPY (ไม่รวมภาษี)
วางจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น เดือน พฤศจิกายน 2019
รายละเอียดเพิ่มเติม g-shock.jp
Initial Thoughts
หลังจาก G-Shock ในตระกูล Full Metal เปิดตัวมาประมาณ 1 ปี ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ด้วยหน้าตาที่ยังดูทันสมัย แม้ว่าจะเป็นการออกแบบเมื่อ 36 ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นนาฬิการุ่นคลาสสิคอีกรุ่นของโลก ฟังก์ชั่นมาตรฐานมาครบ แถมเพิ่มการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งถือว่าดีงามมากเพราะทำให้เราสามารถปรับตั้งอะไรต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แค่การกดปุ่มไม่กี่ครั้ง ระบบรีชาร์จแบตเตอรี่ผ่านแผงโซล่าก็สะดวกมาก ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องต้องคอยเปลี่ยนแบตเตอรี่ และจากประสบการณ์ใช้งาน แบตเตอรี่ของระบบโซล่าจะทนทานกว่าแบตเตอรี่ธรรมดา ทำให้ลดค่าใช้จ่ายและเวลาในเรื่องการเซอร์วิสไปได้ ส่วนเรื่องราคาที่ถือว่าเปิดมาได้สะใจมาก อันนี้คงเหมาะสำหรับคนที่ชอบ G-Shock ที่มีความสุด โดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องงบใดๆทั้งสิ้น