Rado Novelties 2024 อวดโฉมสุดยอด 6 เรือนเวลารุ่นใหม่ประจำปี

มร.เรเน่ ฟูลเลอร์ หัวหน้าฝ่ายขายและผู้บริหารแบรนด์ส่วนภูมิภาค พร้อมด้วยคุณธีรเนตร ภัทรวุฒิพงศ์ ผู้บริหารแบรนด์ Rado ประเทศไทย จัดงาน “Rado Novelties 2024” เพื่อเปิดตัวนาฬิกาหรูน่าสะสมทั้ง 6 รุ่นดังประจำปี 2024 ที่มาพร้อมให้เหล่าคนรักนาฬิกาได้ยลโฉมพร้อมกันแล้วที่ โรกส์ บาร์ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ถ.สุขุมวิท

โดยในงานนี้ ได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ตบเท้าเข้าร่วมงานกันคับคั่ง อาทิ ปรีดากร เมธเกรียงชัย, ขนิษฐา ดรุณเนตร, เฌอปัฐน์ กิตติพรวริษฐ์, จงกล พลาฤทธิ์ และอีกมากมาย รวมถึงเหล่านักแสดงชื่อดังที่มาร่วมถ่ายทอดสไตล์อันโดดเด่นผ่านเรือนเวลาสุดหรู อาทิ อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ, ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์, บลู-พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ, มารีน่า-ศดานันท์ บาเล็นซิเอก้า และแยม-มทิรา ตันติประสุต

สำหรับงาน “Rado Novelties 2024” จัดแสดงสุดยอดเรือนเวลาประจำปี 2024 ที่ประกอบไปด้วย 6 รุ่นดีไซน์ล่าสุด นำโดยเรือนไฮไลท์อย่าง Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton พร้อมสายวัสดุ High-Tech Ceramic แบบด้านสีเขียวมะกอกๅ Ref.R32150162 ที่เป็นพระเอกในงานนี้ มาพร้อมกับรุ่นสายยาง Ref.R32150168 โดยการนำเสนอในคอนเซ็ปต์เนรมิตเมืองให้เป็นพงไพรธรรมชาติในแบบฉบับของคุณ ด้วยการดีไซน์ตัวเรือนในโทนสีเขียวมะกอกที่จะช่วยกระตุ้นถึงความเป็นนักผจญภัยของผู้สวมใส่ ด้านตัวเรือนผลิตจาก High-Tech Ceramic ที่มีโครงสร้างแบบเป็นชิ้นเดียว พร้อมกรอบหน้าปัดผลิตจาก Stainless Steel เคลือบ PVD สี Rose gold และขอบ Hign Tech ceramic สีเขียวมะกอกแบบด้านที่มีตัวเลขและเครื่องหมายเป็นแบบสลักลวดลายรูปสามเหลี่ยมที่เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว พร้อมมอบสัมผัสการสวมใส่ที่สบายด้วยสายนาฬิกา 2 แบบ ทั้งสายนาฬิกายางสีเขียวมะกอกแบบด้าน พร้อมบานพับล็อกแบบขยายได้ที่ผลิตจาก Stainless steel และสายนาฬิกาแบบถักที่ผลิตจาก High-Tech ceramic พร้อมบานพับล็อกแบบ 3 ทบที่ทำจาก titanium เพิ่มความแข็งแรงทนทานในโทนสีเขียวมะกอกเข้ากันได้ดีกับสีของตัวเรือน นอกจากนี้บริเวณด้านหลังตัวเรือนยังผลิตจาก titanium แบบขัดเงารูปทรงกลม ที่มีกระจก sapphire แบบโปร่งใสสามารถมองเห็นกลไกการทำงานอันทรงพลังของระบบ Automatic Cal. R808 ให้ความแม่นยำและเที่ยงตรงอย่างไร้ที่ติ พร้อมแฮร์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อสนามแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี และสามารถสำรองพลังงานสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง มาพร้อมกับความสามารถกันน้ำได้ลึก 30 bar หรือ 300 เมตร

ต่อมาที่รุ่น True Square Open Heart มาใน 2 เฉดสีใหม่ ได้แก่ รุ่นสีขาว ประดับอัญมณี Ref.R27073712 และสีเขียวเทอร์ควอยซ์ประดับเพชรแท้ Ref.R271767120 ที่ออกแบบมาเพื่อเผยให้เห็นความงดงามของกลไกที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้าปัดนาฬิกาได้อย่างชัดเจน โดยในทั้ง 2 รุ่น มีตัวเรือนและเม็ดมะยมทำจาก High Tech ceramic ที่มีโครงสร้างแบบตัวเรือนชิ้นเดียว ครอบทับหน้าปัดด้วยกระจก Sapphire เคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ส่วนฝาหลังผลิตจาก Titanium เพิ่มความแข็งแรง ในตัวเรือนรุ่นสีขาวจะถูกประดับด้วยอัญมณี 12 เม็ด แทนตำแหน่งหลักบอกเวลาแบบชั่วโมง ที่ประกอบด้วย แซฟไฟร์สีน้ำเงิน, อะความารีน, ซาโวไรต์, แซฟไฟร์สีเหลือง, สปิเนล, แซฟไฟร์สีชมพู และแซฟไฟร์สีม่วง ในขณะที่ตัวเรือนรุ่นสีเขียวเทอร์ควอยซ์ใช้เพชรคุณภาพสูง Top Wesselton ประดับ 12 เม็ด โดยทั้งสองรุ่นถูกขับเคลื่อนด้วยกลไก Cal.R734 สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง มี Hairspring ป้องกันสนามแม่เหล็กที่ผลิตจาก Nivachron™ เคลือบตกแต่งผิวด้วยลวดลายวงกลมและโครงสร้าง Cote de Geneve บนฐานกลไก ตัวเข็มนาฬิกาสีโรเดียมเคลื่อนบนหน้าปัด มีสัญลักษณ์สมอเรือเคลื่อนไหวในโทนสีโรเดียมที่โดดเด่นบนพื้นหลังสีขาวหรือสีเงิน และสายของนาฬิกาผลิตจากHigh-Tech Ceramic ขัดเงา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอย่าง True Square x Kunihiko Morinaga Ref.R27086172 ที่เป็นผลงานการสร้างสรรค์เรือนเวลาร่วมกับ คุนิฮิโกะ โมรินากะ ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการออกแบบล้ำยุค โดยครั้งนี้นักออกแบบได้ใช้เทคโนโลยี Photochromic มาใช้บนหน้าปัดนาฬิกาทำให้สนองต่อการเปลี่ยนแปลงเมื่อโดนแสง บางครั้งดูทึบแสงและบางครั้งจะดูโปร่งแสง เพื่อซ่อนและเปิดเผยรายละเอียดโครงสร้างกลไก Automatic

ถัดมาที่รุ่น True Round Open Heart มาพร้อมกับ 4 รุ่นดีไซน์ใหม่ ได้แก่ สีขาว Ref.R27115012, สีพลาสม่า Ref.R27108112, สีดำ Ref.R27107172 และรุ่น Limited Edtiion สีขาวหน้าปัดสะท้อนแสงอาทิตย์ Ref.R27115022 ที่มีเพียง 888 เรือนทั่วโลก โดยดีไซน์หน้าปัดมีแรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความ Infinity และเลข 8 ที่หมายถึงโชคลาภ พร้อมเผยให้เห็นกลไกอันแสนประณีตให้เห็นอย่างน่าตื่นตา โดยจะมี 3 รุ่นในโทนสีหน้าปัดสีขาว สีพลาสมา และสีดำ โดดเด่นด้วยขอบสีทองโรสโกลด์ และเข็มชั่วโมงและนาทีในโทนสีทองโรสโกลด์เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว บนตัวเรือนขนาด 40 มิลิเมตร โดยทั้งตัวเรือน เม็ดมะยม และสายนาฬิกาผลิตจากไฮเทค เซรามิกขัดเงาสีดำ สีพลาสมา และสีขาว ส่วนอีกอีก 1 รุ่น จะเป็นรุ่น Limited Edition ที่มาในตัวเรือนและเม็ดมะยมผลิตจาก High-Tech Ceramic สีขาวซันเรย์ขัดเงา โครงสร้างแบบตัวเรือนชิ้นเดียว และฝาหลังผลิตจาก Titanium โดยบริเวณตรงกลางประดับด้วยกระจก Sapphire แกะสลักคำว่า: LIMITED EDITION ONE OUT OF 888 อย่างพิถีพิถัน โดยจุดเด่นจะอยู่ที่หน้าปัดซันเรย์สีขาวเรืองแสงที่มีเข็มบอกเวลาเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® พร้อมล้อมด้วยวงแหวนสีเทาบนหน้าปัด ซึ่งนาฬิกาทั้ง 4 รุ่นใหม่นี้จะขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.R734 ที่มีดีไซน์โอเพ่นฮาร์ท สามารถสำรองพลังงานได้นาน 80 ชั่วโมง เสริมความแข็งแรงด้วยแฮร์สปริงที่ผลิตจาก Nivachron™ ช่วยป้องกันสนามแม่เหล็ก

ต่อมาที่นาฬิการุ่นยอดนิยมของสุภาพสตรี Centrix Open Heart เพิ่มความหรูหราบนหน้าปัดด้วยเพชรแท้ Super Jubilé ขนาดหน้าปัด 35 มม ประดับเพชรเพิ่มเป็นประกาย 86 เม็ด ตรงส่วนโค้งด้านล่างของบริดจ์ 2 รุ่น ตัวเรือนสีขาว Ref.R30029932 และตัวเรือนสีน้ำตาล Ref.R30029942 มาพร้อมรุ่น Jubilé ที่ประดับเพชรแท้ 12 เม็ด บนหน้าปัดขนาด 35 มิลลิเมตร ได้แก่ รุ่นสีขาว Ref.R30029922, สีน้ำตาล Ref.R30029902, สีพลาสม่า Ref.R30029912 และสีน้ำตาล ขนาดหน้าปัด 39.5 มม Ref.R30028902 ในดีไซน์สไตล์เฟมินีนที่จะดึงดูดทุกสายตาด้วยรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ โดยนาฬิการุ่น Centrix นั้นสื่อถึงการมาจากจักรวาลของนาฬิกา Swiss made ที่เวลา คือการเคลื่อนไหว และเพชร คือดวงดาวที่กำลังส่องแสงวาววับอยู่บนท้องฟ้านับเป็นการผสมผสานสองแมททีเรียลอันสะท้อนให้เห็นถึงความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว ระหว่าง Stainless steel และ High-Tech Ceramic โดยจุดเด่นของเรือนเวลาคอลเลกชันนี้อยู่ที่การประดับตกแต่งหน้าปัดด้วยเพชรแท้ มากกว่ารุ่นก่อนๆ โดยเรียกว่า ‘Super Jubile’ ตัวเรือนสีขาว Ref.R30029932 และตัวเรือนสีน้ำตาล Ref.R30029942 พร้อมช่องที่เปิดโชว์บนหน้าปัดเพื่อเผยให้เห็นกลไกอันพลิ้วไหวที่น่าหลงใหลภายในเรือนเวลา โดยมีให้เลือกหลากหลายสีสันตามความชอบ รุ่น Jubilé สำหรับท่านที่ชื่นชอบเพชรไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป ประดับบนตำแหน่งชั่วโมง

ด้านรุ่น Anatom มากับสีหน้าปัดใหม่ 3 สี ได้แก่ สีเขียว Ref.R10202319, สีน้ำเงิน Ref.R10202209, สีคอนยัค Ref.R10202309 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความโดดเด่นถูกเปิดตัวเมื่อปลายปี 2023 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และครั้งนี้พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยรุ่น Anatom นับเป็นเรือนเวลาที่สามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ Rado ออกมาได้เป็นอย่างดี โดยเปิดตัวครั้งแรกในช่วงปลายปี 1983 นาฬิการุ่นนี้ได้นำเสนอคอนเซ็ปต์ Anatom แห่งการปฏิวัติเรือนเวลา ด้วยกระจก Sapphire ที่นูนตามแนวโค้งของสรีระรับกับส่วนข้อมือได้อย่างลงตัว ควบคู่ไปกับตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยม และหลังจาก 40 ปี นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก Anatom ได้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งอย่างสง่างาม ในแบบที่สะท้อนถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ และในครั้งนี้ได้เปิดตัว Anatom กับ 4 รุ่นใหม่ที่มีให้เลือก โดยมี 3 รุ่นที่แตกต่างจากสีของหน้าปัด ที่มีตัวเรือนสีดำรูปทรงสี่เหลี่ยมผลิตจากไฮเทค High-Tech Ceramic ด้านหน้าปัดไล่ระดับเฉดสีจากบริเวณตรงกลางตัวเรือนไปยังบริเวณขอบด้านนอกในโทนสีดำเข้ม แตกต่างกันออกไปในแต่ละเฉดสีทั้งสีเขียว, สีน้ำเงิน และสีคอนยัค โดยมีดีเทลหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ส่วนเข็มชั่วโมงทำจากโรเดียมเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว พร้อมการขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.R766 ที่เข้ากันได้ดีกับสายนาฬิกายางสีดำคุณภาพสูง

ปิดท้ายที่นาฬิการุ่นไอคอนิคจาก Rado ที่รุ่นใหม่คือรุ่น Diastar Ref.R12161733 สีทองโดดเด่น สะกดทุกสายตา โดยโดยนาฬิการุ่น DiaStar ได้รับความนิยมมาอย่างช้านานตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1972 และได้มีการปรับปรุงด้วยการนำวัสดุ CeramosTM มาใช้เป็นวัสดุบริเวณขอบ Bazel ในรุ่นสีทองนี้ด้วยช่วยเพิ่มเสน่ห์ และมีความเป็นเอกลักษณ์ในการมองกลไกบนหน้าปัดนาฬิการุ่นนี้ด้วย พร้อมการเลือกใช้กระจกคริสตัล Sapphire บริเวณหน้าปัดและฝาหลังช่วยเผยมุมมองให้เห็นกลไก Automatic ที่มีรายละเอียดซับซ้อนและสวยงาม ที่มีการสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง พร้อม Hairspring ผลิตจาก Nivachron™ ช่วยป้องกันสนามแม่เหล็ก

พบกับเรือนเวลาหรูหลากคอลเลกชั่นประจำปี 2024 จากง Rado นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้ที่ เคาน์เตอร์ Rado ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Shopee และ Lazada สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-610-0284 และ Line Official Account: @radothailand