จากงาน Watches & Wonders 2023 ที่ผ่านมา Rolex มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ให้กับ New Cosmograph Daytona Collection ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ โดยมีการปรับโฉมใหม่พร้อมรายละเอียดมากมายแบบยกแผงกันเลยทีเดียว และเป็นครั้งแรกที่ Rolex เลือกใช้ฝาหลังแบบโปร่งใสในนาฬิการุ่นนี้ เพื่อโชว์กลไก Automatic Chronograph In-House Cal.4131 ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นความเที่ยงตรง ระบบจับเวลาที่แม่นยำ และผ่านการขัดแต่งอย่างประณีตงดงามและหรูหรามากขึ้น รวมทั้งมีเพิ่มประสิทธิภาพในการขึ้นลานด้วย Rotor ที่ผลิตจากโลหะสูงค่าอย่างทองคำแท้เป็นครั้งแรกเช่นกัน
และปีนี้ Rolex ยังได้ร่วมเฉลิมฉลอง 100 ปี แห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ของการแข่งขัน 24 Hours Le Mans ของรายการแข่งขันรถยนต์อันยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งของโลก ที่เริ่มจัดการแข่งขันมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1923 ซึ่งรูปแบบของการแข่งขันเป็นแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ซึ่งเป็นการพิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ทั้งการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ยางรถยนต์ ระบบเบรค และเครื่องยนต์ รวมทั้งความแข็งแรงของนักแข่งและทีมงานทุกคนอีกด้วย ในฐานะผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2001 ถึงปัจจุบัน จนได้รับการยกย่องให้เป็นนาฬิกาอย่างเป็นทางการของ FIA World Endurance Championship ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันรายการนี้จะได้รับรางวัลเป็นนาฬิกา Rolex Cosmograph Daytona รุ่นพิเศษที่สลักข้อความยกย่องไว้ที่ฝาหลัง
โดย Rolex ได้เปิดตัวนาฬิกา Cosmograph Daytona รุ่นพิเศษเพื่อร่วมเฉลิมฉลองครั้งนี้ ที่มีการใส่ใส่รายละเอียดที่สื่อถึงการเฉลิมฉลองครั้งนี้ ด้วยการสลักตัวเลข ‘100’ สีแดงใน Tachymeter Scale บนขอบ Bezel Cerachrom และมีการนำรูปแบบของหน้าปัดหลักสีดำกับหน้าปัดย่อยสีขาวแบบ Tri-Compax ตามสไตล์นาฬิกา Cosmograph Daytona ‘Pual Newman’ Ref.6263 มาใช้เพื่อความคลาสสิก และตัวอักษร ‘Daytona’ สีแดงเหนือหน้าปัดย่อยตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยมีการเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova บนชุดเข็มชั่วโมง-นาที ทรง Baton และหลักชั่วโมง ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน
ตัวเรือน White Gold 18K ขนาด 40 มิลลิเมตร หนา 12.2 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 100 เมตร ใช้ฝาหลังแบบขันเกลียวแบบโปร่งใส กลไก Automatic Chronograph In-House Cal.4131 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลาต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง ที่ควบคุมด้วยกลไก Column Wheel และ Vertical Clutch โดยมีการปรับปรุงทั้งด้านความเที่ยงตรง ทนทาน และความสวยงามด้วยการขัดแต่งลวดลาย Rolex Côtes de Genève ใช้ Rotor สำหรับขึ้นลานอัตโนมัติด้วยวัสดุ Yellow Gold 18K และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับ Chronometer จากสถาบัน COSC มาพร้อมกับสายนาฬิกาแบบ Oyster ขัดแต่งด้วยลวดลาย Satin สลับกับ Polished พร้อมระบบ EasyLink ที่สามารถขยายความยาวสายอีก 5 มิลลิเมตร ได้อย่างรวดเร็ว
Rolex Special Cosmograph Daytona “Celebrating 100 Years of 24 Hours Le Mans”
Ref.126529LN
ราคา 49,000 CHF
วางจำหน่าย ภายในปี 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม rolex.com
Initial Thoughts
นาฬิกา Rolex Cosmograph Daytona มีตำนานร่วมกับวงการ Motorsport มาอย่างยาวนานในฐานะพันธมิตรและผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการ เริ่มตั้งแต่ปี 1963 โดยชื่อ ‘Daytona’ มาจากชื่อสนาม ‘Daytona Speed Way’ ที่จัดการแข่งขันรถระดับโลกในรายการ NASCAR (National Association for Stock Car Auto Racing) ในสหรัฐอเมริกา จนมาถึงรายการแข่งขัน 24 Hours Le Mans ในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในวงการนาฬิกา ที่มุ่งมั่นพัฒนานาฬิกาจับเวลากลไกจักรกลคุณภาพสูง เคียงคู่ไปกับการแข่งขันรถแข่งระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน