หลักจากการเปิดตัวนาฬิกา Seiko 140th Anniversary Re-Creation King Seiko ‘KSK’ SJE083 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปี การก่อตั้งแบรนด์ Seiko ในปี 2020 ภายใต้แนวคิดการนำรูปแบบความคลาสสิกของนาฬิกา King Seiko ‘KSK’ นาฬิกากลไกระดับสูงของ Seiko จากปี 1965 กลับมาผลิตใหม่ และต่อเนื่องด้วยรุ่น Re-Creation of King Seiko ‘KSK’ SJE087 ที่เพิ่มกลิ่นไอความหรูหราด้วยการใช้หน้าปัดสีแชมเปญที่เข้ากันได้ดีกับหลักชั่วโมงและชุดเข็มบอกเวลาสีทอง ซึ่งนาฬิกาทั้ง 2 รุ่น ถูกผลิตขึ้นแบบ Limited Edition ซึ่งถูกต่อยอดให้กลายเป็นนาฬิการุ่นใหม่ในตระกูล Seiko ‘King Seiko’ Collection ที่มาพร้อมกับหน้าปัดแบบไม่มีวันที่ ในตัวเรือนขนาด 37 มิลลิเมตร ในปี 2022 ที่ผ่านมา
การกลับมาในครั้งนี้ ทำให้บรรดาแฟนพันธุ์แท้ Seiko ที่ชื่นชอบนาฬิการุ่นนี้ แต่อยากได้ฟังก์ชั่นบอกวันที่และตัวเรือนที่ขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่ง Seiko ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง ด้วยการเพิ่มรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา โดยมีหน้าปัดสีเงินขัดแต่งลวดลาย Sunray และหน้าปัดสีดำสนิท โดยใช้โลโก้ SEIKO แบบตัวนูน ชุดเข็มทรง Dauphine หลักชั่วโมงแบบแท่งที่มีการขัดแต่งเหลี่ยมมุมโดยเฉพาะตำแหน่ง 12 นาฬิกา ที่มีการขัดแต่งเหลี่ยมมุมแบบเพชรขนาดเล็กสองแถวที่คั่นด้วยมุมแหลม และชุดเข็มทรง Dauphine ใช้กระจก Sapphire หน้าปัดแบบ Boxed
ตัวเรือน Stainless Steel 38.6 มิลลิเมตร หนา 10.7 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 50 เมตร ที่ผ่านการขัดแต่งอย่างประณีตด้วยเทคนิค Zaratsu ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับนาฬิการะดับสูงอย่างกับ Grand Seiko ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal.6L35 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 45 ชั่วโมง ซึ่งเที่ยงตรงในระดับ -10/+15 วินาทีต่อวัน มาพร้อมกับสายนาฬิกาแบบ 7 Links ที่ให้อารมณ์วินเทจแบบเต็ม ๆ พร้อมกับบานพับแบบ 3 ทบ ปลดล๊อกด้วยระบบปุ่มกด
Seiko ‘King Seiko’ Date
Ref.SJE089 หน้าปัดสีเงิน
Ref.SJE091 หน้าปัดสีดำ
ราคา 418,000 JPY
วางจำหน่าย กรกฎาคม 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม seikowatches.com
Initial Thoughts
ก่อนหน้านี้ Seiko ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น ‘King Seiko’ 3 Days SPB369 SPB371 SPB373 ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร พร้อมลานสำรองพลังงาน 3 วัน Cal.6R55 ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการมาของ ‘King Seiko’ Date เรือนนี้อาจจะทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกตั้งคำถามว่า แตกต่างกันตรงไหน นอกจากขนาดและฟังก์ชั่น กับราคาที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจริง ๆ จะเห็นว่า Seiko เลือกใช้กลไกระดับสูงในตระกูล 6L35 แบบเดียวกับ 2 รุ่น Limited Edition ที่ตัวเรือนภายนอกที่ผ่านการขัดแต่งด้วยเทคนิคเดียวกับ Grand Seiko จึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับการมาของนาฬิกาในซีรีย์นี้