จากงาน Watches & Wonders 2023 แบรนด์ Tudor มิได้เพียงนำเสนอนาฬิการูปแบบใหม่เท่านั้น แต่ยังมีการสะท้อนถึงความกล้าหาญของแบรนด์อย่างเอาไว้เช่นเดียวกับงาน ‘Tudor Novelties 2023’ ที่ถูกจัดขึ้นในพื้นที่กว่า 330 ตารางเมตร ณ The Glass House ในสวนปาร์คนายเลิศ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อปลุกจิตวิญญาณ #BornToDare ให้กับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานกว่า 250 คน
ในงานนี้ได้จำลองการออกแบบ Facade ของโรงงาน Tudor แห่งใหม่ในเมืองเลอโลค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยงานออกแบบด้านหน้าอาคารและหน้าต่างที่ทำให้โรงงานแห่งใหม่อันทันสมัยดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการสร้างการผลิตนาฬิกาให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง ในขณะเดียวกันก็ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในกระบวนการผลิตนาฬิกา เพื่อให้ได้นาฬิกาที่หรูหราที่สุด คุณภาพดีที่สุด ในราคาที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของแบรนด์
โดยในงานนี้ Tudor ได้เผยโฉมนาฬิกาคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดเรือนจริง ที่เปิดตัวในปีนี้ มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสอย่างใกล้ ได้แก่ Black Bay 54 นาฬิกาดำน้ำสุดคลาสสิกที่ระลึกถึงนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของแบรนด์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1954 และต่อยอดคอลเลกชั่น Black Bay ด้วยนาฬิการุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับขอบหน้าปัดสีแดงเบอร์กันดี รวมถึง Black Bay GMT รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีขาวโอพาลีนร่วมกับขอบหน้าปัดสีนำ้เงินและสีแดงเบอร์กันดีอันโดดเด่น และปิดท้ายด้วยคอลเลกชั่น Royal กับหน้าปัดสองสีใหม่ ได้แก่ สีช็อคโกแลตและสีแซลมอน ที่มาในตัวเรือนขนาด 31, 36, 39 และ 41 มิลลิเมตร
Tudor แสดงให้เห็นถึงตัวตนของแบรนด์ตามสโลแกน #BornToDare เพื่อบอกเล่าถึงเจตนารมณ์และวิสัยทัศน์อันมุ่งมั่นและกล้าหาญของ Hans Wildof ผู้ก่อตั้งแบรนด์ในอดีต ที่สืบทอดมาจนกลายเป็น DNA ของแบรนด์ในปัจจุบัน โดยสามารถติดตามนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ tudorwatch.com