หลังจากการเปิดตัว Maurice Lacroix AIKON Master Grand Date ในปี 2021 ซึ่งเป็นนาฬิการะดับเรือธงของคอลเลกชั่น ‘AIKON’ ที่มีความโดดเด่นด้วยการหล่อหลอมจิตวิญญาณของคอลเลกชั่น Masterpiece อันเลื่องชื่อของแบรนด์ เข้ากับคอลเลกชั่นนาฬิกาสปอร์ตหรูอย่าง AIKON ได้อย่างลงตัว และถูกต่อยอดด้วย AIKON Master Grand Date Black ในปี 2022 ที่มาในรูปแบบคมเข้มด้วยโทนสีดำทั้งหน้าปัด ตัวเรือน สายนาฬิกา รวมถึงกลไกจักรกลภายใน ที่ผลิตในแบบ Limited Edition เพียง 50 เรือนในโลกเท่านั้น
แล้วก็มาถึงการต่อยอดครั้งสำคัญอีกครั้ง เมื่อ Maurice Lacroix เปิดตัวนาฬิกา AIKON Master Grand Date Technicolour ที่มาใน 4 โทนสีสันสดใส ได้แก่ สีฟ้า สีเขียว สีส้ม และสีเหลือง ที่ถูกวางไว้ตรงหน้าปัดย่อยแบบเยื้องศูนย์สีดำสลักลวดลาย Clous de Paris ตรงตำแหน่ง 2 นาฬิกา และตัวเลขวันที่แบบ Grand Date ตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา บนหน้าปัดหลักสีดำด้าน โดยมีการเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova บนชุดเข็มและหลักชั่วโมง มีการโชว์การทำงานของกลไก Balance Wheel ตรงตำแหน่ง 8 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน
ตัวเรือน Stainless Steel เคลือบสีดำด้วยเทคนิค DLC ขนาด 45 มิลลิเมตร หนา 15 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 100 เมตร ผนึกแน่นกับฝาหลังแบบโปร่งใสสลักข้อความ ‘Limited Edition of 50’ ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal.LM331 ความถี่ 18,000 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 50 ชั่วโมง เคลือบสีดำและมีการขัดแต่งผิวด้วยเทคนิค Sandblasted ทั้งแท่นเครื่อง สะพานจักร เฟืองหลัก และ Rotor ขึ้นลานที่สลักโลโก้ ‘ML’ มาพร้อมกับสายยางสีเดียวกับหน้าปัดกับ Folding Buckle Steel เคลือบ PVD สีดำ ที่สามารถเปลี่ยนสลับสายยางสีดำที่เพิ่มมาให้ในเซตได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ Quick Release
Maurice Lacroix AIKON Master Grand Date Technicolour
Ref.AI6118-DLB0J-730-I Yellow
Ref.AI6118-DLB0J-530-J Orange
Ref.AI6118-DLB0J-430-H Blue
Ref.AI6118-DLB0J-630-I Green
ผลิตจำนวนจำกัดรุ่นละ 50 เรือน
ราคา 344,000 บาท
วางจำหน่าย พฤษภาคม 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม mauricelacroix.com
Initial Thoughts
หลังจากที่ MLเปิดตัวนาฬิการุ่นนี้ด้วยการนำเอารายละเอียดสุดคลาสสิกจากคอลเลกชั่น ‘Masterpiece’ ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 มารวมกับคอลเลกชั่น ‘AIKON’ นาฬิกาสปอร์ตยุคใหม่ของแบรนด์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งถือว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก ๆ ยิ่งมีการเพิ่มรุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับสีสันสดใสแบบนี้ ยิ่งเป็นการเสริมภาพลักษณ์ของความเป็นนาฬิกาสปอร์ตยุคใหม่ได้อย่างชัดเจนที่สุด