ตลอดเส้นทางในวงการลูกหนัง ‘อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน’ ที่ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งแบ๊คซ้ายและเป็นกับตันทีมชาติไทย ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองกับต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ในปี 2554 เขาสามารถพาทีม คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ หรือแชมป์ 3 รายการภายในปีเดียว ซึ่งนับเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทยที่ทำได้ และในปี 2556 อุ้มยังได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของไทยลีกประจำฤดูกาลอีกด้วย และที่จุดเปลี่ยนที่สำคัญ เขาได้มีโอกาสไปสร้างชื่อกับทีมโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ยอดทีมจากแดนอาทิตย์อุทัย ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี ก่อนที่การตัดสินใจครั้งนี้จะกลายเป็นสิ่งที่เค้าต้องจดจำไปตลอดกาล เมื่อเขาได้สร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็นนักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีกหรือลีกสูงสุดของญี่ปุ่นได้สำเร็จ และจากผลงานอันสุดยอดของอุ้มตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี่คือบทพิสูจน์ที่สามารถชี้ชัดได้แล้วว่านักเตะแข้งทองคนนี้คือแบ็กซ้ายระดับแถวหน้าของเอเชียและจะยังคงไม่หยุดตามล่าหาความสำเร็จเพียงเท่านี้อย่างแน่นอน
นับเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ 2 เรื่องราวความสำเร็จระหว่าง นาฬิกา Seiko Prospex Speedtimer ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการพัฒนาต่อยอดมาจากนาฬิกาจับเวลาที่ใช้สำหรับการแข่งขันในกีฬาระดับโลก และ อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน กับผลงานอันน่าชื่นชม รวมถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดพัฒนา ไซโก (ประเทศไทย) จึงเลือกให้ธีราทร มาร่วมเป็น Brand Friend คนที่สองในปี 2022 กับแคมเปญ KEEP GOING FORWARD ต่อจาก อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม Brand Friend คนแรก โดย อุ้ม-ธีราทร ได้จับคู่กับคอลเลคชั่น Seiko Prospex Speedtimer เรือนเวลาที่โดดเด่นด้วยระบบจับเวลาแบบโครโนกราฟ สะท้อนแรงบันดาลใจของ “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” ที่อยู่เคียงข้างกับนักกีฬามาอย่างยาวนาน โดยนาฬิกา Seiko Prospex Seeptimer ได้ถูกนำกลับมาเปิดตัวรุ่นใหม่อีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ทั้งแบบกลไกอัตโนมัติ Speedtimer Mechanical Chronograph และแบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสง Speedtimer Solar Chronograph
สำหรับคอลเลคชั่น Speedtimer Solar Chronograph รุ่นใหม่ในปีนี้พร้อมกัน 3 รุ่น โดยทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดใหม่ด้วยการผสมผสานจิตวิญญาณของนาฬิกาจับเวลาเรือนแรกที่มีความสำคัญของแบรนด์มาออกแบบใหม่และจับคู่เข้ากับกลไกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Solar ของ Seiko ที่ตอบสนองได้ทั้งความเที่ยงตรง ความเชื่อใจในการทำงาน และความยั่งยืนในการใช้งาน
ด้วยหน้าปัดขัดแต่งในแบบ Sunray พร้อมกับสีสันที่โดดเด่นช่วยทำให้การอ่านค่าเวลาชัดเจนและดีไซน์ที่ทันสมัย และสิ่งที่อยู่บนตัวเรือนของนาฬิกา Speedtimer Chronograph ทุกรุ่น คือรายละเอียดของการออกแบบที่สะท้อนถึงความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดของการจับเวลาที่เกิดขึ้น เข็มวินาทีของระบบจับเวลาถูกออกแบบให้ยาวขึ้น เพื่อความสะดวกและการอ่านค่าที่แม่นยำและรวดเร็วเมื่อต้องทำงานร่วมกับสเกลจับเวลา Tachymeter ที่มีหลักบอกค่าอยู่ตรงขอบนอกของหน้าปัด เข็มจับเวลานาทีวางในตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยเข็มทั้ง 2 ชุดฉาบด้วยสีแดงเพื่อความโดเด่น และลุคสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยว อีกทั้งเพื่อความสะดวกในการอ่านค่าเวลาได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงทีแม้เพียงแค่เหลือบตามองไปที่หน้าปัด ช่องหน้าต่างบอกวันที่จะถูกวางไว้ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา
ทั้ง 3 รุ่นขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ V192 พร้อมกลไก SOLAR ของ Seiko ซึ่งมีฟังก์ชั่นในการจับเวลาสูงสุด 60 นาที ระบุเวลาแบบ 24 ชั่วโมง สำรองพลังงานได้นานถึง 6 เดือน หลังจากการชาร์จเต็ม สามารถตรวจสอบระดับพลังงานสำรองได้ที่หน้าปัดย่อยตำแหน่ง 6 นาฬิกา รวมทั้งเข็มชั่วโมงและนาทีรวมถึงหลักชั่วโมงทั้ง 12 ตำแหน่งได้รับการเคลือบสารเรืองแสง Lumibrite ทำให้สามารถมองเห็นและอ่านค่าเวลาได้แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีแสงน้อย
Seiko Prospex Speed Solar Chronographs รหัส SSC911, SSC913 และ SSC915 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 1 พฤจิกายน 2022 ที่บูติกของ Seiko เซ็นทรัลพระราม9 ไซโกบูติกออนไลน์ เคาท์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้น และร้านตัวแทนจำหน่ายของ Seiko ทั่วประเทศ ราคาจำหน่าย 30,000 บาท
สามารถดูรายละเอียดสินค้าได้ที่
Website : seikowatches.com/speedtimer
FB : Seiko Club by Seiko Thailand
IG : Seiko_Thailand
LINE OA : @Seiko_Thailand
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888