Maurice Lacroix AIKON Master Grand Date ตัวแทนส่วนผสมที่ลงตัวของความสปอร์ตและความคลาสสิก

หลังจากที่ ‘AIKON’ คอลเลกชั่นนาฬิกาสปอร์ตหรูจาก Maurice Lacroix ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยมาพร้อมกับฟังก์ชั่นหลากหลายให้เลือกใช้งาน อาทิ AIKON Venturer นาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพ, AIKON Venturer GMT’s Double Urban Adventure ที่นอกจากจะดำน้ำลึกแล้วยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นบอกเวลาใน Timezone ที่ 2 สำหรับนักเดินทางและนักผจญภัย, AIKON Automatic Chronograph Titanium นาฬิกาจับเวลาที่มาพร้อมกับตัวเรือนวัสดุ Titanium น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง และล่าสุดกับ AIKON Urban Tribe นาฬิการุ่นพิเศษที่รวมเอาฟังก์ชั่นบอกเวลามาตรฐานอันเรียบง่าย รวมกับลวดลายกราฟฟิกของสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่ถูกสลักลงบนตัวเรือนและสายนาฬิกาได้อย่างงดงามลงตัว 

และล่าสุดกับนาฬิกาที่เกิดจากการหล่อหลอมจิตวิญญาณของคอลเลกชั่น Master Piece อันเลื่องชื่อของแบรนด์ เข้ากับคอลเลกชั่นนาฬิกาสปอร์ตหรูอย่าง AIKON ได้อย่างลงตัว โดยการวางหน้าปัดบอกเวลาชั่วโมง-นาที แบบ Off Center สลักลวดลาย Waffle ไว้ตรงตำแหน่ง 2 นาฬิกา ซ้อนกับหน้าปัดย่อยบอกวินาทีตรงตำแหน่ง 4 นาฬิกา มีหน้าต่างวันที่แบบ Big Date ตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา และโชว์การทำงานของ Balance Wheel ที่ยึดไว้กับ Balance Bridge แบบ Skeleton ด้านหน้าปัดตรงตำแหน่ง 8 นาฬิกา โดยทั้งหมดถูกวางไว้บนหน้าปัดสีน้ำเงิน และใช้สารเรืองแสง Super Luminova ที่ชุดเข็มและหลักชั่วโมง

ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 45 มิลลิเมตร หนา 14 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 100 เมตร ใช้กระจกหน้าปัดและฝาหลังแบบโปร่งใสด้วยวัสดุ Sapphire โชว์การทำงานของกลไก Automatic In-House Cal.ML331 ความถี่ 18,000 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 50 ชั่วโมง ที่ผ่านการขัดแต่งอย่างประณีตงดงามด้วยลวดลาย Clous de Paris และใช้ Rotor ที่ผ่านการฉลุแบบ Skeleton โดยมาพร้อมสาย Steel แบบ Integrated กับระบบ Quick Release ที่สามารถเปลี่ยนสายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ และเพิ่มสายผ้า Cordura สีน้ำเงินมาให้ในเซ็ต

Maurice Lacroix AIKON Master Grand Date

Ref.AI6118-SS00E-430-C
ราคา 319,000 บาท 
วางจำหน่าย ธันวาคม 2021
รายละเอียดเพิ่มเติม mauricelacroix.com

Initial Thoughts 

สำหรับคอลเลกชั่น AIKON ที่ทยอยเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่พร้อมฟังก์ชั่นที่หลากหลายออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานและนักสะสม เป็นการสื่อให้เห็นว่าแบรนด์จริงจังกับคอลเลกชั่นนี้อย่างมาก โดยเฉพาะนาฬิการุ่นนี้ ที่เป็นการรวมเอานาฬิกาคลาสสิกและนาฬิกาสปอร์ตของแบรนด์เอาไว้ในเรือนเดียวกันได้อย่างลงตัวที่สุด และนับเป็นนาฬิกาที่น่าสะสมอีกรุ่นหนึ่งจาก Maurice Lacroix