Blancpain Ladybird Colors Collection การกลับมาของนาฬิกากลไกจักรกลสำหรับผู้หญิงยุค 1950s

ย้อนกลับไปในปี 1956 นาฬิกา Ladybird ได้ทำการปฏิวัติวงการนาฬิกาด้วยการเป็นนาฬิกาที่มีกลไกทรงกลมขนาดเล็กที่สุดในโลกในยุคนั้น ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนี้เกิดมาจากการริเริ่มของ  Betty Fiechter และ Jean-Jacques Fiechter ที่บริหารงานร่วมกันจนส่งผลให้ Blancpain ประสบความสำเร็จมากมายไม่ว่าจะเป็นการผลิตนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีหลากหลายรุ่น รวมไปถึงการให้กำเนิด Fifty Fathoms นาฬิกาดำน้ำแบบร่วมสมัยเรือนแรกของโลก ในปี 1953

กระบวนการฝังเพชรซึ่งเป็นงานฝีมือขั้นสูงในทุกขั้นตอน โดยก่อนการฝังเพชรในแต่ละจุด ช่างอัญมณีต้องเจาะช่องลงบนพื้นผิวของโลหะล้ำค่าด้วยมีดแกะสลักหรือ scorper และทำให้เกิดหนามเตยขึ้นที่ขอบของช่องดังกล่าว ทั้งนี้ช่องที่ถูกเจาะจะต้องผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า “recutting” หรือขั้นตอนการขัดแต่งเพื่อทำให้เกิดความเงาแบบ mirror effect ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเพราะจะส่งผลต่อการเปล่งประกายของชิ้นงาน

หน้าปัด Mother of Pearl สีขาว หลักชั่วโมงและชุดเข็มบอกเวลาทรง Leaf ผลิตจากวัสดุ Red หรือ White Gold 18K ประดับเพชรบนหน้าปัด, ขอบหน้าปัด, ตัวเรือน และเม็ดมะยม จำนวน 59 เม็ด น้ำหนักรวม 2 กะรัต ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire 

ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic แบบ In-House Cal.1153 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 95 ชั่วโมง ประกอบด้วยชิ้นส่วนจำนวน 186 ชิ้น และหนาเพียง 3.25 มิลลิเมตร ใช้ Rotor ขึ้นลานผลิตจากวัสดุ Red หรือ White Gold 22K และฉลุแบบโปร่งเพื่อโชว์การขัดแต่งอย่างประณีตงดงามด้วยลวดลาย Côtes de Genève บนสะพานจักร

ตัวเรือนขนาด 34.9 มิลลิเมตร หนา 9 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 30 เมตร มาพร้อมสายหนังจระเข้สีเขียวหางนกยูง, สีน้ำเงินมิดไนท์, สีขาวซาตินในรุ่น Red Gold 18K และสีเหลืองเลมอน, สีแทนเจอรีน, สีม่วงอ่อนในรุ่น White Gold 18K กับ Pin หรือ Folding Buckle 

Blancpain Ladybird Colors Collection
Ref.3660 2954 Red Gold  18K
Ref.3660 1954 White Gold 18K
Pin Buckle ราคา 944,600 บาท
Folding Buckle ราคา 995,500 บาท 

วางจำหน่าย ตุลาคม 2021
รายละเอียดเพิ่มเติม blancpain.com

Initial Thoughts

นับตั้งแต่ปี 1930 เป็นต้นมา Blancpain เป็นผู้ริเริ่มประวัติศาสตร์นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีผ่านการนำเสนอนาฬิกาข้อมือระบบอัตโนมัติให้กับสุภาพสตรีเรือนแรกภายใต้ชื่อ Rolls และต่อด้วย Ladybird ในปี 1956 และด้วยความเชื่อที่ว่าสุภาพสตรีก็เห็นคุณค่าในความพิเศษและความน่าหลงใหลในนาฬิกาจักรกลไม่แพ้สุภาพบุรุษ