Apple เปิดตัวสุดยอดสมาร์ทวอทช์แห่งยุคอย่าง Apple Watch Series 7 ในงาน California Streaming เมื่อวันที่ 14 กันยายน (ที่สหรัฐอเมริกา) ที่ผ่านมา โดยมีการปรับปรุงดีไซน์และคุณสมบัติใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นหลายอย่าง
เริ่มต้นที่การเพิ่มพื้นที่การแสดงผลของหน้าจอมากขึ้น 20% ด้วยขอบจอกว้างเพียง 1.7 มิลลิเมตร ทำให้มิติตัวเรือนแทบจะไม่ต่างจากเดิมทั้งรุ่น 40 และ 44 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 และสว่างมากขึ้น 70% ในที่ร่ม ทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
Apple เลือกใช้กระจกหน้าปัดแบบใหม่ที่มีความหนาขึ้น 50% ทำให้มีความทนทานต่อการกระแทกมากขึ้น และตัวเรือนยังรับรองความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IPX6 และกันน้ำลึก 50 เมตร จึงสามารถใช้งานปกติหรือออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจ และยังคงใช้สายนาฬิการ่วมกับรุ่นเดิมได้ทั้งรุ่น 40 และ 44 มิลลิเมตร
ในส่วนของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จเร็วขึ้น 33% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและสายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็กแบบ USB-C
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ watchOS8 ที่อัดแน่นไปด้วยความสามารถด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากมายอย่าง เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า, วัดระดับออกซิเจนในเลือด และเพิ่มประเภทของการออกกำลังกาย รวมถึงแอปพลิเคชั่น Wallet สำหรับการใช้จ่ายผ่านนาฬิกา, ข้อความ และรูปภาพให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
Apple Watch Series 7 มีให้เลือกใน 2 ขนาด คือ 40 มิลลิเมตร กับ 44 มิลลิเมตร โดยรุ่น Aluminum มีให้เลือก 5 สี (Midnight, Starlight, Green, Blue, (Product)Red) รุ่น Stainless Steel มีให้เลือก 3 สี (Silver, Graphite, Gold) และ Hermès Edition
โดยจะเริ่มวางจำหน่ายภายในปี 2021 ราคาเริ่มต้นที่ 399 USD สำหรับรุ่น Aluminum ส่วนรุ่น Stainless Steel และ Hermès Edition ยังไม่เปิดเผยราคาในขณะนี้ และยังคงจำหน่าย Apple Watch SE และ Series 3 ต่อไป