Seiko มีการผลิตนาฬิกา Limited Edition ออกมาจำหน่ายในท้องตลาดมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น โดยแทบทุกรุ่นต่างมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั้งในประเทศไทยรวมถึงนักสะสมทั่วโลก แต่สำหรับเหล่าแฟนตัวยงของประเทศไทยนั้นอาจเกิดความสงสัยว่า ทำไมไม่เคยเห็นไซโก ผลิตรุ่นลิมิเต็ดที่มีสีสันของธงชาติไทยออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในชื่อของ Seiko ประเทศไทย เลยสักครั้ง
และในปี 2563 ก็ถึงวาระ ที่ Seiko ประเทศไทย ได้ผลิตนาฬิกา Limited Edition ออกมาเพื่อเป็นของขวัญและแทนคำขอบคุณสำหรับแฟน ๆ ชาวไทยที่ได้ให้การสนับสนุนแบรนด์นาฬิกา สัญชาติญี่ปุ่นด้วยดีเสมอมา โดยนาฬิกา Seiko 5 Sports Automatic Thailand Limited Edition นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันของธงไตรรงค์ หรือธงชาติไทย ที่ได้เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2460 หรือ 103 ปีที่แล้ว โดยจะมีลักษณะแบ่งออกเป็นแถบสี 5 แถบ และเป็นสีหลัก 3 สีซึ่งแต่ละสีจะมีความหมายดังนี้
– สีแดง หมายถึง ชาติ
– สีขาว หมายถึง ศาสนา
– สีน้ำเงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์
ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 42.5 มิลลิเมตร หนา 13.4 มิลลิเมตร โดยใช้พื้นฐานจาก Seiko 5 Sports Automatic ขอบตัวเรือนสีน้ำเงินตัดกับสีขาว สลับขอบหน้าปัดด้านในสีน้ำเงินตัดกับสีแดง ชุดเข็มเวลาสีทองซ่อนความหมายของความเป็นแผ่นดินไทยแผ่นดินทอง หรือที่สื่อถึงดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์โดดเด่นอยู่บนหน้าปัดขาวสะอาดตา
ฝาหลังแบบเปลือย สง่างามด้วยการประทับอักษร “ประเทศไทย ๒๕๖๓” ซึ่งหมายถึงปีที่วางจำหน่ายและประทับหมายเลขประจำเรือนตามจำนวนการผลิต โดยภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal.4R36 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 41 ชั่วโมง กันน้ำลึก 100 เมตร พร้อมฟังก์ชั่น Day-Date อันเป็นเอกลักษณ์ของ Seiko 5 มาตั้งแต่ปี 1963
นอกจากสาย Stainless Steel แล้ว นาฬิกายังมาพร้อมสายผ้า NATO ลวดลายธงชาติไทย และกล่องรุ่นพิเศษสีดำที่มีลวดลายธงชาติไทยที่ขอบด้านใน
Seiko 5 Sports Thailand Limited Edition
Ref.SPPF91K
ผลิตจำนวนจำกัด 2,563 เรือน
ราคา 13,800 บาท
วางจำหน่าย 17 พฤศจิกายน 2563 เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม seikowatches.com
Initial Thoughts
นับเป็นเกียรติสำหรับคนไทยและประเทศไทยมาก ๆ ที่ Seiko แบรนด์นาฬิการะดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับตลาดบ้านเราด้วยการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษที่ตกแต่งด้วยลวดลายธงชาติไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีโอกาสดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยนัก ดังนั้นแฟน ๆ Seiko ชาวไทยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
