Oris Aquis Date Calibre 400 มาตรฐานใหม่แห่งวงการนาฬิกา

ในที่สุด Oris ก็เผยโฉมนาฬิการุ่นแรกที่มาพร้อมกับ Calibre 400 กลไก Automatic In-House ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรองพลังงานยาวนานถึง 5 วัน, Rotor ระบบใหม่ที่ทนทานมากขึ้น, เพิ่มประสิทธิภาพในการทนทานต่อสนามแม่เหล็กมากกว่ากลไกทั่วไปถึง 11 เท่า และขยายระยะเวลาการเข้ารับบริการและการรับประกันคุณภาพจากการใช้งานปกติเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งนับเป็นแบรนด์นาฬิการายแรก ๆ ของโลกที่เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ขนาดนี้ 

สำหรับนาฬิการุ่นแรกที่มาพร้อมกับกลไกใหม่ล่าสุดนั่นคือ คอลเลกชั่น Aquis Date ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 43.5 มิลลิเมตร ขัดแต่งตัวเรือนและสายแบบปัดเงาสลับด้าน ขอบ Bezel หมุนได้ทิศทางเดียว Insert พร้อม Diving Scale วัสดุ Ceramic สีน้ำเงิน เข้ากับหน้าปัด Sunburst สีน้ำเงินไล่เฉดเข้มไปอ่อน หลักชั่วโมงและชุดเข็มบอกเวลาเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova มีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire 

ฝาหลังขันเกลียวแบบโปร่งใส กันน้ำลึก 300 เมตร ตามมาตรฐานนาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพ โชว์การทำงานของกลไก Automatic In-House Cal.400 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงานสูงสุด 120 ชั่วโมง หรือ 5 วัน กลไกป้องกันสนามแม่เหล็กสูงถึง 2,250 gauss โดยมีความคลาดเคลื่อนที่ระดับต่ำกว่า 10 วินาที/วัน โดยปรับปรุงระบบลูกปืน Rotor ขึ้นลานให้มีความซับซ้อนน้อยลงและทนทานมากขึ้นกว่าลูกปืนในกลไกแบบเดิม 

นอกจากนี้สายนาฬิกายังมีการออกแบบใหม่ให้ใช้ระบบ Quick Release ที่สามารถเปลี่ยนสลับสายได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมใด ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับนักดำน้ำระดับมืออาชีพที่ต้องเปลี่ยนสลับสายเหล็กและสายยางบ่อย ๆ 

Oris Aquis Date Calibre 400 

Ref.01 400 7763 4135-07 8 24 09PEB
ราคา 110,900 บาท 

วางจำหน่าย พฤศจิกายน 2020 
รายละเอียดเพิ่มเติม oris.ch

Initial thoughts 

Oris เลือกที่จะเปิดตัวนาฬิการุ่นแรกที่ใช้กลไก Calibre 400 ในคอลเลกชั่น Aquis Date ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำรุ่นมาตรฐานและเปรียบเสมือนหนึ่งใน Iconic ของแบรนด์ โดยเปิดราคามาสูงกว่ารุ่นเดิมที่ใช้กลไก Sellita ราว 35 % เลยทีเดียว แต่เมื่อคิดคำนวณให้ดีกับประสิทธิภาพที่ได้มา ก็นับว่าคุ้มค่ามาก ๆ กับการประกันยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งถ้า Oris ไม่มั่นใจในคุณภาพจริง ๆ คงไม่กล้าที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการนาฬิกาอย่างแน่นอน