TAG Heuer Monaco Calibre Heuer 02 Bracelet Version เพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยสายเหล็ก

ในปี 2019 ที่ผ่านมา นอกจากนาฬิกา TAG Heuer จะเปิดตัวรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปี ที่เป็นตัวแทนจาก 5 ยุค 5 ทศวรรษ ได้แก่  1969-1979, 1979-1989, 1989-1999, 1999-2009, 2009-2019 แล้ว ยังมีการปรับโฉมนาฬิกา Monaco ในแนวร่วมสมัยหรือ Contemporary โดยเลือกใช้กลไก Automatic Chronograph แบบ In-House ในรุ่น Monaco Cal.Heuer 02 ซึ่งมาพร้อมกับสายหนังจระเข้สุดคลาสสิกจากยุค 1970s 

โดยปีนี้ TAG Heuer มีการอัพเดทคอลเลกชั่น Monaco Cal.Heuer 02 อีกครั้ง ด้วยการเพิ่มรุ่นสาย Stainless Steel ขึ้นมา โดยออกแบบสายโลหะให้มีรูปแบบคล้ายกับนาฬิกา Monaco จากรุ่นดั้งเดิมที่มีข้อสายแบบขัดด้านสลับด้วยข้อกลางขนาดเล็กขัดเงา พร้อมบานพับแบบ Butterfly และปุ่มล็อก ให้เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสายโลหะโดยเพิ่มความสปอร์ตให้มากขึ้น 

ในส่วนของตัวเรือนและกลไกยังคงเหมือนกับรุ่นสายหนัง ด้วยตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 39 x 39 มิลลิเมตร หน้าปัดจับเวลาแบบ Duocompax บันทึกเวลาต่อเนื่อง 30 นาทีและ 12 ชั่วโมง โดยวางตำแหน่งปุ่มกดจับเวลาและเม็ดมะยมไว้ทางฝั่งขวาทั้งหมด และใช้กระจกหน้าปัด Sapphire แบบ Domed กันน้ำลึก 100 เมตร 

นาฬิกามีหน้าปัดให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีน้ำเงิน ที่ผ่านการขัดแต่งลวดลาย Sunburst ใช้ชุดเข็มและหลักชั่วโมงแบบขีดเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova  พร้อมเข็มวินาทีและหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา

ฝาหลังผนึกแน่นด้วยสกรู 4 ตำแหน่ง กับกระจก Sapphire แบบโปร่งใส โชว์การทำงานของกลไก Automatic Chronograph Cal.Heuer 02 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง หรือ 4Hz และสำรองพลังงานสูงสุดได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง โดยเป็นกลไกจับเวลาแท้ ๆ ที่ไม่ต้องอาศัยชุดโมดูลจับเวลามาประกอบลงไปกับกลไกปกติเหมือนรุ่นก่อนหน้า ใช้เฟือง Column Wheel และ Virtical Clutch ที่มีความนุ่มนวล แม่นยำและทนทานมากขึ้น ขัดแต่งกลไกด้วยลวดลาย Geneva Stripes และเคลือบสีดำบน Rotor พร้อมสกรีนตัวอักษรสีแดงเข้ากับเฟือง Column Wheel สีแดงให้อารมณ์สปอร์ต 

TAG Heuer Monaco Calibre Heuer 02 Bracelet Version

Ref.CBL2113.BA0644 หน้าปัดสีดำ
Ref.CBL2111.BA0644 หน้าปัดสีน้ำเงิน 
ราคา 6,750 USD 
วางจำหน่าย พฤศจิกายน 2020 
รายละเอียดเพิ่มเติม  tagheuer.com

Initial Thoughts 

TAG Heuer นำสายเหล็กที่มีรูปแบบดั้งเดิม กลับมาใช้กับนาฬิการุ่นใหม่ด้วยการออกแบบให้มีรูปแบบร่วมสมัยเข้ากับตัวเรือนได้อย่างลงตัว โดยมีราคาต่างกันเพียง 400 USD หรือราว ๆ 12,000 บาท ซึ่งไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ชอบใส่นาฬิกาสายโลหะเพื่อใช้งานลุย ๆ ได้แบบนาฬิกาสปอร์ตเต็มตัว