A. Lange & Söhne Lange 1 Time Zone ปรับโฉมใหม่พร้อมสุดยอดกลไกบอกเวลาสองประเทศ

A. Lange & Söhne ฉลองครบรอบ 25 ปี ไปเมื่อปีที่แล้ว โดยนำนาฬิกาฟังก์ชั่นต่างๆในคอลเลคชั่น Lange 1 มาผลิตเป็นรุ่นพิเศษ 10 รุ่น ในจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 25 เรือนเท่านั้น ซึ่งแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป อาทิ  Lange 1 Time Zone 25th Anniversary ที่มีคุณสมบัติในการบอกเวลา 2 Time Zone และ Day-Night พร้อมกัน ซึ่งนับเป็นฟังก์ชั่นที่มีความซับซ้อนค่อนข้างสูง

ปี 2020 A. Lange & Söhne ปรับโฉมนาฬิกาในคอลเลคชั่น Lange 1 Time Zone ด้วยหน้าปัดแบบเยื้องศูนย์บอกเวลา Home Time ตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกา หลักชั่วโมงแบบขีดสลับเลขโรมัน และหน้าปัดย่อยบอกเวลา 2nd Time Zone ตรงตำแหน่ง 5 นาฬิกา โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนเดิมที่วงแหวนบอกสถานะ Day- Night สีน้ำเงินจะเป็นแบบลูกศรชี้ แต่สำหรับรุ่นใหม่วงแหวนถูกออกแบบใหม่ให้วางไว้ตรงแผ่นตรงแกนกลางของหน้าปัดย่อยทั้ง 2 ตำแหน่งเพื่อแสดงค่าร่วมกับเข็มบอกเวลา

นอกจากนี้ลูกศรที่หน้าปัดย่อย 2nd Timezone ชี้ไปยัง 24 เมืองทั่วโลก ถูกใส่ความพิเศษเข้าไปด้วยการเพิ่มแถบสีแดงสำหรับบอกเวลา Daylight Saving Time (DST) ที่มีการปรับเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อนของเขตเมืองหนาว พร้อมเข็ม Power Reserved ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา และวันที่แบบ Big Date ตรงตำแหน่ง 2 นาฬิกา 

ฟังก์ชั่นใหม่ทั้งหมดถูกขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานแบบ In-House Cal.L141.1 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนต่างๆ 448 ชิ้น ที่ผ่านการขัดแต่งอย่างประณีตสวยงาม ตามมาตรฐานของ A.Lange รวมถึงการแกะสลักลวดลายด้วยมือที่สะพานจักรและแกนยึด Balance Wheel จากสุดยอดช่างฝีมือของ Lange และใช้ Swan Neck Adjustment 

นาฬิกามีขนาด 41.9 มิลลิเมตร หนา 10.9 มิลลิเมตร ใช้กระจกหน้าปัดและฝาหลัง Sapphire กันน้ำลึก 30 เมตร มาพร้อมสายหนังจระเข้ โดยมีวัสดุตัวเรือนทองคำ 18K ให้เลือก 3 ชนิด ได้แก่ Yellow Gold, Pink Gold และ White Gold 

A. Lange & Söhne Lange 1 Time Zone

Ref. 136.021 Yellow Gold 18K
ผลิตแบบจำนวนจำกัด 1,000 เรือน 
ราคา 1,829,000 บาท
Ref. 136.029 White Gold 18K
Ref. 136.032 Pink Gold 18K
ราคา 1,724,000 บาท 
วางจำหน่าย กันยายน 2020 
รายละเอียดเพิ่มเติม alange-soehne.com

Initial Thoughts 

New Lange 1 Time Zone ผ่านการปรับโฉมใหม่ให้ดูลงตัวมากขึ้น ด้วยการออกแบบ Day-Night Indicator ที่ใช้งานร่วมกับเข็มบอกเวลาได้อย่างชาญฉลาด และยิ่งไปกว่านั้น คือ DST Indicator สำหรับหน้าร้อนของเมืองหนาว ซึ่งนับเป็นการออกแบบที่เป็นสุดยอดของความซับซ้อนในนาฬิกาแบบ GMT