ราโด โกลเด้น ฮอร์ส คอลเลคชั่นแรกภายใต้ชื่อแบรนด์ RADO ถือกำเนิดขึ้นในปี 1957 ทั้งยังเป็นคลาสสิคไอเท็มที่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในแวดวงผู้ผลิตนาฬิกาที่หลอมรวมแฟชั่นและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ไว้ด้วยกัน
เพื่อเติมเต็มไลน์อัพนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น Rado จึงนำเสนอโมเดลล่าสุดประจำปี 2019 กับ Golden Horse ในสไตล์ Contemporary ที่ยังคงดีไซน์พื้นฐานดั้งเดิมไว้ แต่ปรับแต่งดีเทลบางอย่างให้โดดเด่นและโมเดิร์นมากขึ้น อาทิ อัพไซส์ตัวเรือนจาก 37mm เป็น 42mm ขอบตัวเรือนที่หนาขึ้นไปจนถึงเม็ดมะยมที่ดูสะดุดตา
ซึ่งองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดนี้ ส่งผลให้รูปทรงที่ได้รับอิทธิพลมาจากดีไซน์วินเทจในยุคก่อนดูมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำยิ่งขึ้น ทั้งยังสื่อถึงตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน รังสรรค์บนตัวเรือนสแตนเลส สตีลที่ผสมผสานนวัตกรรมด้านวัสดุที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ล่าสุด อย่าง เซรามอส (Ceramos ) สีโรสโกลด์ ซึ่งประกอบไปด้วยไฮเทคเซรามิก 90% +โลหะอัลลอยด์ อีก 10% หรือจะเป็นวัสดุซิกเนเจอร์อย่าง ไฮเทคเซรามิกในโทนสีอุ่นไว้อย่างสมดุล
มอบประกายหรูหราแบบทูโทนที่ครบถ้วนไปด้วยดีไซน์วินเทจและดีเอ็นเอของราโด ทั้งยังคงคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนได้อย่างเหนือชั้น มาพร้อมสัญลักษณ์ม้าน้ำคู่ เอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ประจำคอลเลคชั่นนี้ ประดับบนพื้นหน้าปัดหลากเฉดสี อาทิ หน้าปัดสีเทาเข้ม, สีน้ำเงิน, สีเขียว และสีเงิน
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ ETA C07 ของสวิสซึ่งมีพลังงานสำรองยาวนานถึง 80 ชั่วโมง และเลือกจับคู่สายหนังหรือสายสแตนเลส สตีล ที่ให้คุณเปลี่ยนได้ง่ายตามชอบใจ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์
Rado Golden Horse 42mm วางจำหน่ายแล้ว ราคา 63,000 – 69,600 บาท
Initial Thoughts
Rado นำนาฬิกาในตำนานกลับมา ด้วยการนำวัสดุสมัยใหม่และการออกแบบที่ร่วมสมัยมีการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นตามเทรนด์ปัจจุบัน ทำให้ได้นาฬิการุ่นใหม่ที่มีกลิ่นไอความคลาสสิค
จุดเด่นของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่สีของหน้าปัดแบบ Vintage Looks และสายเหล็กแบบเมล็ดข้าวที่นาฬิกายุคนั้นนิยมใช้กัน รวมถึงกลไกมาตรฐานสวิสที่มั่นใจได้ความเที่ยงตรงและทนทาน
ราคาป้ายต่างกันไปจากวัสดุที่แตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งแบบ 2 tones, สายเหล็ก, สายหนัง โดยรวมถือว่าคุ้มค่าสำหรับนาฬิกาสวิสชั้นดี