เปิดตัว Omega Speedmaster Apollo 11 50th Anniversary Limited Edition

วันที่ 20 กรกฎาคม 1969 Neil Armstrong และ Buzz Aldrin ลงไปสำรวจดวงจันทร์และกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่สำหรับมวลมนุษยชาติ โดยสวมใส่นาฬิกา Omega Speedmaster ไปในภาระกิจนี้ด้วย

BA145.022

เดือนพฤศจิกายน 1969 ในงานจัดเลี้ยงฉลองให้กับนักบินอวกาศและผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Apollo 11 ที่เมือง Houston มลรัฐ Texus ประเทศสหรัฐอเมริกา
Omega ได้นำเสนอนาฬิกา Speedmaster Yellow gold 18K รหัส BA145.022 ที่ผลิตแบบจำนวนจำกัด 1,014 เรือน

โดยมอบให้กับนักบินอวกาศ NASA, ประธานาธิบดี Richard Nixon กับรองประธานาธิบดี Spiro Agnew, บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโครงการ นอกจากนั้น Omega วางจำหน่ายให้กับลูกค้าและนักสะสม โดยใช้เวลาผลิตและส่งมอบในช่วงปี 1969-1973

Omega Speedmaster Apollo 11 50th Anniversary ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ BA.145.022 ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนขนาด 42mm มาร์กเกอร์นิลสีดำสนิท ขอบสเกล Tachymetre สีเบอกันดีที่เปลี่ยนมาใช้วัสดุเซรามิกตามยุคสมัย ทนต่อรอยขีดข่วนและคงสภาพสีให้สวยงามโดยไม่มีการซีดจาง กระจกหน้าปัดแบบคริสตัลแซฟไฟร์

ตัวเรือนและสายผลิตจาก Yellow Gold 18K แบบใหม่ที่ Omega เรียกว่า “Moonshine” ที่สีโทนอ่อนลงกว่า yellow gold ทั่วไปเล็กน้อยด้วยการเพิ่มอัตราส่วนของพาลาเดียมลงไป ทำให้เกิดเฉดสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทรงของตัวเรือนและลวดลายข้อสายเป็นแบบเดียวกับ BA145.022

และที่พิเศษสุดๆตรงการสลักคำว่า “Au750” บนหน้าปัด เพื่อบ่งบอกว่า แผ่นหน้าปัดทำจาก 18K Gold (Au750 = ทองคำ 75%) ปัดด้านเป็นลายทาง และสัญลักษณ์ Ω แบบตัวนูนเหมือน Omega Vintage กันน้ำ 50 เมตร

ในส่วนของฝาหลังใช้กระจกแซฟไฟร์ ขอบมีการสลักปี 1969-2019 ชื่อรุ่น “Apollo 11 50th Anniversary” วลีคลาสสิค “The First Watch Worn On The Moon” รวมถึงจำนวนการผลิต xxxx/1014 เรือน และมีการฝังชิ้นส่วนของอุกกาบาตจากดวงจันทร์อีกด้วย

cal.3861

Omega เลือกใช้กลไกไขจับเวลาไขลานใหม่ล่าสุด cal.3861 เป็นเครื่องแบบ Co-Axial ที่ใช้ balance spring Sil4 สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 gauss โดยไม่ต้องอาศัย soft iron ปกป้อง แท่นเครื่องและสะพานเครื่องเคลือบสีทองเหมือนกลไกวินเทจในตำนาน ขัดแต่งลวดลาย Côtes de Genève สวยงาม ความถี่ 26,100vph สำรองพลังงาน 50 ชั่วโมง

กล่องนาฬิกาผลิตพิเศษโดยเฉพาะ แบบ 3D presentation ที่ได้แรงบันดาลใจจากผิวของดวงจันทร์ที่ได้ขึ้นไปสำรวจเป็นครั้งแรกที่ Omega มีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้ด้วย

Omega Speedmaster Apollo 11 50th Anniversary (310.60.42.50.99.001) ผลิตแบบจำนวนจำกัด 1,014 เรือน ราคา 1,202,000 บาท และ Omega จะเริ่มวางจำหน่ายช่วงเดือนกรกฎาคม 2019