พิธีมอบรางวัล Young Talent Competition 2025 จัดขึ้นที่โรงงาน F.P.Journe ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

การแข่งขันนี้จัดขึ้นโดย F.P.Journe ร่วมกับ The Hour Glass ผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาลักชัวรี่ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งสองแบรนด์มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการส่งเสริมศิลปะแห่งการทำนาฬิกาชั้นสูง (haute horology) และปลูกฝังความเข้าใจในงานฝีมืออันประณีตที่เกี่ยวข้องกับโลกของนาฬิกา โดยผู้เข้าแข่งขันจะถูกประเมินจากความซับซ้อนทางเทคนิคของผลงาน, คุณภาพของงานฝีมือ, ความสามารถด้านความสวยงาม (aesthetics) และเงื่อนไขสำคัญคือต้องเป็นผู้ออกแบบและสร้างผลงานด้วยตนเองอย่างอิสระ โดยผู้ชนะของปี 2025 จะได้รับประกาศนียบัตร พร้อมทุนสนับสนุนมูลค่า 50,000 ฟรังก์สวิส จาก The Hour Glass และ F.P.Journe ซึ่งสามารถนำไปซื้อเครื่องมือหรือลงทุนในโปรเจกต์ด้านนาฬิกาในอนาคต ด้วยการตัดสินชองคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วยบุคคลสำคัญในแวดวงนาฬิการะดับโลก ได้แก่ Philippe Dufour, Andreas Strehler, Giulio Papi, Marc Jenni, Michael Tay, Elizabeth Doerr และ François-Paul Journe

Alexis Fruhauff

ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศในรายการ Young Talent Competition ปี 2025 นั่นคือ Alexis Fruhauff อายุ 29 ปี โดยเขาได้สำเร็จการศึกษาจาก Lycée Diderot ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คว้ารางวัลชนะเลิศในปีนี้ด้วยผลงานชื่อว่า Pendule à Seconde เขาได้รับรางวัลจากคุณ Michael Tay กรรมการผู้จัดการของ The Hour Glass และ François-Paul Journe ในงานเลี้ยงฉลองที่โรงงานผลิตของแบรนด์ ท่ามกลางคณะกรรมการและผู้ชนะในปีก่อน ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดีและแบ่งปันประสบการณ์

นาฬิกา Pendule à Seconde

นาฬิกา Pendule à Seconde ของเขาเป็นผลงานที่สร้างขึ้นจากศูนย์ด้วยมือทั้งหมด โดยผสมผสานเทคนิคแบบดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัย มีกลไก escapement แบบ pivoted detent พร้อมฟังก์ชัน “lost beat” จับคู่กับลูกตุ้มแบบปรับได้ ตัวเครื่องมีสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากผลงานของช่างนาฬิการะดับตำนานอย่าง Antide Janvier และ Paul Garnier ตัวเรือนทำจาก ไม้เชอร์รี่แท้ ซึ่งเป็นการคารวะต่อศิลปะการทำนาฬิกาของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18

ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา การแข่งขัน Young Talent Competition ได้กลายเป็นเวทีสำคัญในการค้นหาและสนับสนุนช่างนาฬิการุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ระดับโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยผลักดันพวกเขาให้ก้าวไปสู่ความเป็นอิสระในสายอาชีพ ผ่านการยกย่องผลงานและเปิดโอกาสให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งการแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่เปิดเวทีให้ช่างนาฬิการุ่นใหม่ได้เฉิดฉาย แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจจริงของแบรนด์ระดับตำนานที่ต้องการรักษาและสืบทอดมรดกของศิลปะการทำนาฬิกาไว้ให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต