Tudor Black Bay & Pelagos New Collection 2025 เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดจากงาน Watches & Wonders 2025

จากงาน Watches & Wonders 2025 แบรนด์ Tudor เผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดออกมาเต็มพิกัด ไม่น้อยหน้าแบรนด์ผู้พี่อย่าง Rolex โดยปีนี้เน้นหนักไปที่คอลเลกชันนาฬิกาสปอร์ตดำน้ำ เช่น Black Bay และ Pelagos เป็นหลัก ทั้งการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และการอัปเดตคอลเลกชันเดิมที่เคยเปิดตัวมาแล้ว

Tudor Black Bay 68

นาฬิกาดำน้ำแนวโมเดิร์นคลาสสิก ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 43 มิลลิเมตร หนา 13.6 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 200 เมตร มาพร้อมสาย Steel แบบ 3 Links ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิกาดำน้ำของ Tudor ในปี 1968 ซึ่งเป็นปีที่ Tudor เริ่มใช้เข็มทรง “Snowflake” ที่ปรากฏตัวในแคตตาล็อกนาฬิกาในปี 1969 และถือว่าเป็นนาฬิกาที่มีตัวเรือนขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล Black Bay

ตัวเรือนและสายผลิตจากวัสดุ Stainless Steel และขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal. MT5601-U ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer จากสถาบัน METAS มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงินและสีเงิน พร้อมขอบ Bezel หมุนได้ทิศทางเดียวกับ Diving Scale Insert วัสดุ Aluminum สีดำ

Ref. M7943A1A0NU-0001 Blue
Ref. M7943A1A0NU-0002 Silver
ราคา 173,600 บาท

Tudor Pelagos Ultra

ปีนี้ Tudor เปิดตัวนาฬิกาตระกูลใหม่ในชื่อ Pelagos Ultra ซึ่งก้าวข้ามขีดจำกัดของรุ่นเดิมที่สามารถดำน้ำลึก 500 เมตร โดยเพิ่มขนาดตัวเรือนขึ้นเพียง 1 มิลลิเมตร ปรับปรุงชุดเข็มและหลักชั่วโมงเคลือบสีขาว ตัดกับหน้าปัดสีดำด้าน รวมถึง Diving Scale Insert เซรามิกสีดำด้านเคลือบสารเรืองแสง เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนในที่มืด กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์เคลือบตัดแสงสะท้อน และมีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา และใช้สีฟ้าบนตัวอักษร “Pelagos”

ตัวเรือน Titanium Grade 2 และ 5 ขนาด 43 มิลลิเมตร หนา 14.5 มิลลิเมตร พร้อมฮีเลียมเอสเคปวาล์วข้างตัวเรือนตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกา กันน้ำลึก 1,000 เมตร หรือ 3,280 ฟุต มาพร้อมกับสายวัสดุ Titanium พร้อมบานพับล็อกสายที่สามารถขยายความยาวได้ตามความหนาของชุดดำน้ำในแบบอัตโนมัติด้วยกลไกสปริงด้านใน นาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal. MT5601-U ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 65 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer จากสถาบัน METAS

Ref. M2543C1A7NU-0001
ราคา 219,500 บาท

Tudor Black Bay 58 Burgundy

ปีนี้มีการรีเฟรชคอลเลกชัน Black Bay 58 ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 39 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมของ Black Bay เพิ่มสี Burgundy ให้กับหน้าปัดแบบ Sunray และขอบ Bezel พร้อม Diving Scale Insert วัสดุ Aluminum และมีการปรับเปลี่ยนมาใช้เม็ดมะยมขันเกลียวขนาดใหญ่ตามสไตล์วินเทจเหมือนรุ่น Black Bay 41 Mono Chrome ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว

โดยมีการเปลี่ยนมาใช้กลไก Automatic In-House Cal. MT5400-U ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 65 ชั่วโมง นาฬิกามาพร้อมกับสายใน 3 รูปแบบให้เลือก ได้แก่ รุ่นสายแบบ 5 Links, 3 Links ดีไซน์แบบนาฬิกาดำน้ำวินเทจด้วยการเสริมหมุด Rivet ด้านข้าง และรุ่นสายยางสีดำกับตัวล็อกสายแบบบานพับพร้อมระบบล็อกแบบ 2 ชั้น

Ref. M7939A1A0RU-0001 5 Links
ราคา 169,600 บาท
Ref. M7939A1A0RU-0002 3 Links
ราคา 165,600 บาท
Ref. M7939A1A0RU-0003 Rubber
ราคา 157,600 บาท

Tudor Black Bay Pro White

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับคอลเลกชัน Black Bay Pro นาฬิกาสปอร์ตที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน GMT เพื่อบอกเวลาในไทม์โซนที่ 2 สำหรับนักเดินทาง โดยในปีนี้มีการเพิ่มรุ่นหน้าปัด Opaline สีขาวเนียนที่ตัดกับชุดเข็มบอกเวลาหลักและหลักชั่วโมงสีดำกับเข็ม GMT สีเหลือง มีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire แบบ Domed

ตัวเรือน Stainless Steel เกรด 316L ขนาด 39 มิลลิเมตร ประกบกับฝาหลังแบบปิดทึบขันเกลียว กันน้ำลึก 200 เมตร ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal. MT5652 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง ที่มาพร้อมกับ Silicon Spring Balance ที่ทนทาน และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงจากสถาบัน COSC

Tudor Black Bay Chrono 5 Links

ปิดท้ายด้วยการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับคอลเลกชัน Black Bay Chrono รุ่นหน้าปัดแนวแพนด้าขาว-ดำ ด้วยการเพิ่มรุ่นสาย 5 Links ที่มีความหรูหรามากขึ้น จากเดิมมีแค่รุ่นสาย 3 Links สุดคลาสสิกเท่านั้น โดยยังคงใช้ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 41 มิลลิเมตร หนา 14.4 มิลลิเมตร เม็ดมะยม, ปุ่มกดจับเวลา

ฝาหลังแบบขันเกลียว กันน้ำลึก 200 เมตร ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal. MT5813 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง โดยผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับ Chronometer

Ref. M79360N-0013 Black
Ref. M79360N-0014 White
ราคา 217,500 บาท

นาฬิกาทุกรุ่นวางจำหน่ายภายในปี 2025
รายละเอียดเพิ่มเติม tudorwatch.com

Initial Thoughts

หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า Tudor เป็นแบรนด์ที่มุ่งมั่นพัฒนาด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวเรือน กลไกที่ผลิตขึ้นเอง และการเลือกใช้วัสดุล้ำสมัยในนาฬิกาใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้การันตีได้ว่า Tudor คือแบรนด์นาฬิกาที่มีอนาคตไกลอย่างแน่นอน