Rolex Oyster Perpteual GMT-Master II 126729VTRN นาฬิกาสปอร์ตหรูคู่ใจนักเดินทางที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่

หลังจากที่ Rolex ได้หยุดผลิตนาฬิกา GMT-Master II “เข็มเขียว” ที่มาพร้อมกับ Bezel แบบเซรามิกรุ่นแรกไปอย่างยาวนาน และถูกนำกลับมาอีกครั้งในปี 2022 ที่ผ่านมาในรุ่น GMT-Master II 126720VTNR ซึ่งการกลับมาครั้งนี้มาพร้อมกับขอบหน้าปัดแบบ 2 สี (ดำ-เขียว) ในตัวเรือนและสาย Stainless Steel ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในการบอกเวลาในไทม์โซนที่สองแบบกลางวัน-กลางคืนที่ถูกใช้มาอย่างยาวนาน และยังได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการวางตำแหน่งเม็ดมะยมไว้ที่ด้านซ้ายของตัวเรือนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Rolex อีกด้วย  

ในงาน Watches & Wonders 2025 ทางแบรนด์ Rolex ได้ต่อยอดคอลเลกชัน GMT-Master II อีกครั้ง ด้วยการเพิ่มรุ่นหน้าปัดเซรามิกสีเขียวลงไปในรุ่นเม็ดมะยมซ้าย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Rolex เลือกใช้วัสดุเซรามิกมาผลิตเป็นหน้าปัดนาฬิกา ชุดเข็มชั่วโมง นาที วินาที เข็ม GMT และหลักชั่วโมงผลิตจากวัสดุ White Gold เคลือบสารเรืองแสง Chromalight ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire พร้อมเลนส์ขยายหรือ Cyclops บนหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา  

ตัวเรือน White Gold 18K ขนาด 40 มิลลิเมตร หนา 11.9 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 100 เมตร มาพร้อมกับสายแบบ Oyster เม็ดมะยมขันเกลียวแบบ Triple Lock และฝาหลังขันเกลียว ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal. 3285 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง โดยมีการใช้ Parachrom Hairspring ป้องกันสนามแม่เหล็ก และระบบกันสะเทือน Paraflex ที่มีสมรรถนะสูงขึ้น รวมทั้งมีการปรับแต่งกลไกให้มีความเที่ยงตรงในระดับ +/- 2 วินาที/วัน ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานการทดสอบในระดับ Chronometer  

Rolex GMT-Master II  White Gold 18K

Ref. 126729VTNR  
ราคา 1,773,100 บาท  
วางจำหน่ายภายในปี 2025  
รายละเอียดเพิ่มเติม rolex.com  

Initial Thoughts  

เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นนวัตกรรมใหม่อีกครั้งของ Rolex ที่ได้มีการนำวัสดุเซรามิกที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความทนทาน แข็งแรง และคงสภาพเหมือนใหม่ได้อย่างยาวนานมาใช้กับชิ้นส่วนหน้าปัดเป็นครั้งแรก และนาฬิการุ่นนี้ยังเป็นนาฬิกาเม็ดมะยมซ้ายรุ่นแรกที่ผลิตด้วยวัสดุล้ำค่าหรือ Precious Metal อย่าง White Gold 18K อีกด้วย จึงคาดเดาได้ไม่ยากเลยว่านาฬิการุ่นนี้จะเป็นอีกรุ่นที่กลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมและแฟนตัวจริงอย่างแน่นอนอีกเช่นเคย