15 เรือนไฮไลท์จากงาน Central International Watch Fair 2024

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพร้อมมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยการนาฬิการุ่นพิเศษและนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งถูกคัดสรรให้เป็นนาฬิกาในระดับไฮไลท์ 15 รุ่น ที่นำมาจัดแสดงและวางจำหน่ายพร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายในงาน Central International Watch Fair 2024 ณ โซนนาฬิกาโฉมใหม่ “WATCH WATCH” ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกาในห้างเซ็นทรัลทุกสาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26 กันยายน 2567 – 4 พฤศจิกายน 2567

Oris รุ่น Central Limited Edition 2024 นำเสนอความหรูหราผสมผสานกับความประณีต รังสรรค์เพื่อร่วม เฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 77 ปี ของห้างเซ็นทรัลโดยเฉพาะ ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีลขนาด 38 มม. ขอบตัวเรือนมาพร้อมสเกลนาทีแบบนูน พร้อมหน้าปัดสีแดง Central Red ที่ไล่เฉดเปล่งประกายสะกดทุกสายตา มาร์กเกอร์และเข็มวินาทีสีทองวิจิตร เพิ่มความโดดเด่นและหรูหราไม่ซ้ำใคร ฝาหลังสลักด้วยโลโก้ Central สำหรับเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 77 ปี ของห้างเซ็นทรัลโดยเฉพาะ นาฬิการุ่นนี้สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 41 ชั่วโมง และกันน้ำลึกถึง 100 เมตร มั่นใจในความแข็งแรงและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น  เป็นเจ้าของความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีเพียง 77 เรือนในโลก วางจำหน่ายที่ประเทศไทย ในราคา 109,000 บาท

Baume & Mercier รุ่น Riviera Baumatic 10769 เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งความหรูหราและความเที่ยงตรงกับนาฬิกา Riviera Baumatic 10769 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลเท่านั้น ตัวเรือนขนาด 42 มม. ขอบหน้าปัดผลิตจากสตีลคุณภาพสูงผสานกับไทเทเนียมผ่านการขัดผิวแบบพ่นทราย สื่อถึงพลังอันแข็งแกร่งจากธรรมชาติ นาฬิกาเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Baumatic อันเป็นเอกลักษณ์ของ Baume & Mercier ที่ได้รับการยอมรับในด้านความแม่นยำและความทนทาน หน้าปัดสีน้ำเงินแซฟไฟร์เสริมด้วยสายรัดยางสีฟ้าแบบถอดเปลี่ยนได้ ตกแต่งด้วยดีไซน์ผ้าแคนวาสเพื่อความสะดวกและสวยงามที่ลงตัวทุกการสวมใส่ ด้วยราคา 169,300 บาท

Casio รุ่น MRG-B2100D-1ADR ผสมผสานความแข็งแกร่งและความสดใสของสีสันได้อย่างลงตัว รังสรรค์ในสีสันที่โดดเด่นถึง 5 สี เป็นการสื่อถึงความพยายามอย่างไม่ลดละที่สอดคล้องกับแคมเปญ “Tough Like You” อันหมายถึงความแกร่งในตัวคุณ ซึ่งนอกจากสีสันของหน้าปัดและกรอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลแล้ว ยังมีการใช้โครงสร้าง Carbon Core Guard เสริมความทนทาน พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วยการกันน้ำลึกถึง 200 เมตร วางจำหน่ายในราคา 165,000 บาท

Frederique Constant รุ่น Highlife Tourbillon Perpetual Calendar Manufacture การผสมผสานความสลับซับซ้อนของจักรกลทูร์บิญองและระบบแสดงปฏิทินถาวรไว้เป็นหนึ่งเดียวกันในตัวเรือนดีไซน์หรูประณีต ตัวเรือนขนาด 41 มม. ผลิตจากสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีน้ำเงินตกแต่งเป็นลายลูกโลกที่มีความนูนตรงกลาง ครอบด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ มาพร้อมกลไก In-house ระบบออโตเมติก Cal. FC-975 สำรองพลังงานได้ถึง 38 ชั่วโมง ประกอบสายสเตนเลสสตีล ผลิตในจำนวนจำกัด 88 เรือนทั่วโลก โดยมีในประเทศไทยเพียง 1 เรือนเท่านั้นและวางจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ในราคา 1,319,000 บาท

Grand Seiko รุ่น SBGA499G เรือนเวลาที่รังสรรค์เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบปีที่ 20 ของกลไกสปริงไดรฟ์ คาลิเบอร์ 9R ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,300 เรือนทั่วโลก มาพร้อมความโดดเด่นของพื้นหน้าปัดสีแดงที่ถ่ายทอดภาพทิวเขาโฮทากะ และฤดูใบไม้ร่วงอันงดงามที่ถูกอาบด้วยแสงแดดสีทองในยามเช้า พร้อมด้วยการขับเคลื่อนของกลไก Cal. 9R65 ซึ่งถือเป็นกลไกแรกในตระกูล 9R ของ Grand Seiko ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความแม่นยำและประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้น สนนราคาสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ 204,000 บาท

Longines รุ่น Spirit Flyback เรือนเวลาแนวสปอร์ตคลาสสิกมาพร้อมสมาชิกรุ่นใหม่ 2 รุ่น ในรูปแบบตัวเรือนทูโทน 2 รูปแบบ ได้แก่ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลจับคู่เยลโลว์โกลด์ 18K พร้อมหน้าปัดสีเขียว และตัวเรือนสเตนเลสสตีลคู่กับพิงค์โกลด์ 18K พร้อมกับหน้าปัดสีน้ำตาล ทุกรุ่นมีตัวเรือนขนาด 42 มม. ภายในทำงานด้วยกลไกโครโนกราฟฟลายแบคอัตโนมัติ Cal.L791.4 ที่มีความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ ผ่านการทดสอบจากสถาบัน COSC และสามารถต้านทานสนามแมเหล็กได้มากกว่ามาตรฐาน ISO764 ถึง 10 เท่า สวมใส่พร้อมสายหนังสีเขียว และสีน้ำตาลด้านเข้ากับหน้าปัด จำหน่ายในราคา 226,200 บาท

Maurice Lacroix รุ่น AIKON Automatic Chronograph เรือนเวลาสปอร์ตโครโนกราฟที่เปี่ยมด้วยความสมาร์ทและมีพลังในการออกแบบ เข้าถึงจิตวิญญาณแห่งวิถีคนเมืองที่เข้าได้กับวันทำงานหรือวันหยุดสบายๆ นำเสนอในตัวเรือนไทเทนียม เกรด 5 ขนาด 44 มม. น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งทนทาน และไม่ระคายเคืองยามสวมใส่ วางจำหน่ายในราคา 165,900 บาท

Mido รุ่น Multifort TV 35 นาฬิการูปทรงสี่เหลี่ยมมุมมนที่มีเอกลักษณ์อันได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงทีวีในยุค 80 วันนี้มาในตัวเรือนขนาดใหม่ที่ 35 มม. ผลิตจากสเตนเลสสตีลเคลือบพีวีดีสีโรสโกลด์ จับคู่กับพื้นหน้าปัดสีน้ำตาล พร้อมการประดับเพชรแท้ 8 เม็ด แทนมาร์กเกอร์หลักชั่วโมง มอบความสง่งามและสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร วางจำหน่ายในราคา 50,400 บาท

Montblanc รุ่น 1858 Geosphere Carbo2 0 Oxygen เปิดตัวครั้งแรกในงาน Watches and Wonders 2024 ได้รับการออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับนักสำรวจและผู้ที่รักการผจญภัยให้ไร้ซึ่งออกซิเจนภายในกลไก เพื่อเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งเรือนที่มีทั้งความแกร่งและความหรูหรา เปี่ยมด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย จำหน่ายในราคาสุดพิเศษ 348,100 บาท

Rado รุ่น True Square Automatic Open Heart Diamonds Limited Edition “CHECKMATE”นาฬิกาที่มีดีไซน์แปลกตาแต่น่าสนใจ นำแรงบันดาลใจมาจากกระดานหมากรุกที่มีสีขาวดำสลับกัน ผลิตตัวเรือนและสายจากวัสดุไฮเทคเซรามิกสลับสีกันระหว่างขาวและดำ ปรากฏใน 2 รูปแบบ รุ่น R27073752 เม็ดมะยมและตัวเรือนทำจากไฮเทคเซรามิกสีขาว มีโครงสร้างแบบเป็นชิ้นเดียว ฝาหลังทำจากไทเทเนียมแบบพ่นทรายและมีคริสตัลแซฟไฟร์ ส่วนรุ่น R27086752 เม็ดมะยมและตัวเรือนทำจากไฮเทคเซรามิกสีดำ โครงสร้างแบบชิ้นเดียว ฝาหลังไทเทเนียมพ่นทรายเคลือบ PVD สีดำพร้อมกับคริสตัลแซฟไฟร์  ประดับเพชรแท้ หน้าปัดออกแบบในสไตล์โอเพ่นฮาร์ทเผยการทำงานของกลไก Rado Calibre R734 ระบบออโตเมติกที่สำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง ฝาหลังสลักข้อความ LIMITED EDITION ONE OUT OF 888 ทั้งสองรุ่นราคา 119,800 บาท

Seiko รุ่น Astron GPS Solar SEIKO Brand 100th Anniversary Limited Edition นวัตกรรมเรือนเวลาที่รังสรรค์มาเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ Seiko จากแนวคิด “brilliance“ ซึ่งแบรนด์ Seiko ซึ่งจะยังคงพัฒนาเฟ้นหานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์แห่งโลกอนาคตต่อไป โดยในปีนี้นำเสนอ Seiko Astron GPS Solar SEIKO Brand 100th Anniversary Limited Edition หน้าปัดได้รับการออกแบบให้เป็นบรรยากาศยามค่ำคืนของโลก โดยมุมมองที่มาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก หน้าปัดลายซันเรย์ ตัวเรือนและสายสีดำแสดงถึงบรรยากาศของห้วงอวกาศ และส่วนสีโรสโกลด์นั้นชวนให้นึกถึงภาพของโลกในเวลากลางคืนเมื่อมองจากดาวเทียมที่โคจรอยู่ จำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 1,200 เรือนทั่วโลก ในราคา เรือนละ 129,000 บาท

Seiko รุ่น King Seiko KSK 6L35 คอลเลกชันเรือนเวลาที่ถ่ายทอดความงดงามอันเปี่ยมไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งจากต้นกำเนิดของคิงไซโกในคาเมโดะ ของเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความน่าหลงใหล และมักถูกพรรณนาถึงความงดงามนั้น สะท้อนผ่านภาพพิมพ์อุกิโยเอะ (ukiyo-e) จากยุคเอโดะ เรือนเวลาทั้ง 3 หน้าปัดแสดงลวดลายสไตล์ญี่ปุ่นที่ปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ พร้อมด้วยการเกลี่ยสีไล่ระดับอย่างละเอียดอ่อน ประณีต พร้อมกลไก Caliber 6L35 ที่สำรองพลังงานได้นานสูงสุดถึง 45 ชั่วโมง ตัวเรือนและสายทำจากสเตนเลสสตีล ราคาเรือนละ 130,000 บาท

Tissot รุ่น T-Race Powermatic 80 41MM New Collection First Launch เรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตสุดล้ำสะท้อนจิตวิญญาณของกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มที่ผ่านตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบพีวีดีสีดำ ขนาด 41 มม. ตัดกับมาร์กเกอร์และเข็มนาฬิกาสีแดงที่เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® เพื่อความชัดเจนในทุกสภาพแสง ทำงานด้วยกลไกสวิสระบบอัตโนมัติที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง ติดตั้งด้วยสปริงบาลานซ์ Nivachron ช่วยป้องกันสนามแม่เหล็ก ให้คุณมั่นใจในความแม่นยำของเวลา รองรับการกันน้ำลึก 100 เมตร รับประกัน 2 ปี ราคาเรือนละ 27,400 บาท