Audemars Piguet Royal Oak Offshore Collection 2024 เผยโฉมสามเรือนเวลาใหม่พร้อมเส้นสายที่คมเข้ม

เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีสำคัญของแบรนด์ Audemars Piguet เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของคอลเลกชัน Royal Oak Offshore นาฬิกาสปอร์ตหรูตัวลุยที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Chronograph ที่ทำให้นาฬิกาตระกูลได้กลายเป็นนาฬิกาสปอร์ตเต็มตัว ซึ่งทาง Audemars Pigeut ได้เฉลิมฉลองด้วยนาฬิกาหลากหลายรุ่น อาทิ Royal Oak Offshore Selfwinding Chronograph 43mm Black Ceramic and Gold หรือ Royal Oak Offshore Selfwinding Chronograph 42mm All Black Ceramic

มาถึงปีนี้ Audemars Piguet ยังคงไปต่อกับคอลเลกชัน Royal Oak Offshore ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ โดยเริ่มต้นที่รุ่น Royal Oak Offshore Selfwinding Chronograph 43mm ที่มาพร้อมกับหน้าปัดแบบ Méga Tapisserie เคลือบสีน้ำตาลแบบ Smoked พร้อมหน้าปัดย่อยสำหรับจับเวลาแบบ Tri-Compax และสเกล Tachymeter สีดำ โดยมีการเคลือบสารเรืองแสง Super-Luminova ที่หลักชั่วโมงและชุดเข็มบอกเวลา และมีหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน ในตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 43 มิลลิเมตร หนา 14.4 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 100 เมตร เม็ดมะยมและชุดปุ่มกดจับเวลาทรบแบนที่ผลิตจากวัสดุ Ceramic สีดำ มาพร้อมกับฝาหลังทรงแปดเหลี่ยมแบบโปร่งใสที่ยึดกับตัวเรือนและขอบ Bezel Ceramic สีดำทรง 8 เหลี่ยม ด้วยสกรู White Gold 18K ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Chronograph In-House Cal.4401 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง และมาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลที่ตกแต่งสไตล์อ๊อกฟอร์ดกับ Pin Buckle Steel พร้อมระบบ Quick Release สำหรับเปลี่ยนสลับกับสายยางสีดำเพิ่มมาให้ในเซตได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือ 

ต่อด้วยรุ่น Royal Oak Offshore Selfwinding 43mm ที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินแบบ Smoked สลักลวดลาย Méga Tapisserie และมีการเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova ที่ชุดเข็มบอกเวลาและหลักชั่วโมง มีหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อนเข้ากันกับขอบ Bezel ทรง 8 เหลี่ยมหุ้มยางสีน้ำเงิน นาฬิกามาพร้อมกับฝาหลังแบบโปร่งใสโชว์การทำงานของกลไก Automatic In-House Cal.4302 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง ที่ผนึกแน่นกับตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 43 มิลลิเมตร หนา 14.4 มิลลิเมตร ด้วยสกรู White Gold 18K โดยมาพร้อมกับสายยางสีน้ำเงินกับ Pin Buckle Steel พร้อมระบบ Quick Release สำหรับเปลี่ยนสลับกับสายยางสีดำเพิ่มมาให้ในเซตได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือ

ปิดท้ายด้วยนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีในรุ่น Royal Oak Offshore Selfwinding 37mm ที่มาพร้อมกับความหรูหราด้วยหน้าปัดสี Ivory สลักลวดลาย Grande Tapisserie และมีการเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova ที่ชุดเข็มบอกเวลาและหลักชั่วโมงวัสดุ Pink Gold 18K มีหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน ที่เข้ากันกับขอบ Bezel ของ 8 เหลี่ยมหุ้มยางสี Ivory เช่นเดียวกับหน้าปัด นาฬิกามาพร้อมกับฝาหลังแบบโปร่งใสโชว์การทำงานของกลไก Automatic In-House Cal.5900 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 60 ชั่วโมง ที่ผนึกแน่นกับตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 43 มิลลิเมตร หนา 14.4 มิลลิเมตร ด้วยสกรู White Gold 18K โดยมาพร้อมกับสายยางสี Ivory พิมพ์ลวดลาย Mosaic กับ Pin Bucklel Pink Gold 18K พร้อมระบบ Quick Release สำหรับเปลี่ยนสลับกับสายยางสีดำพิมพ์ลวดลาย Mosaicเพิ่มมาให้ในเซตได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือ

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Selfwinding Chronograph 43mm

Ref.26420ST.OO.A828CR.01
ราคา 1,577,700 บาท

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Selfwinding 43mm 

Ref. 15605SK.OO.A350CA.01
ราคา 1,036,100 บาท

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Selfwinding 37mm 

Ref. 77605OK.OO.A101CA.01
ราคา 1,789,600 บาท

วางจำหน่าย สิงหาคม 2024
รายละเอียดเพิ่มเติม audemarspiguet.com

Initial Thoughts 

นาฬิกาทั้ง 3 เรือน ได้แรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณอันกล้าหาญและมีความขบถอยุ่ในตัวเองค่อนข้างสูงของคอลเลกชัน Royal Oak Offshore ที่ได้ผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาแล้วกว่า 30 ปี ที่ผ่าน และได้รับการยอมรับจากนักสะสมนาฬิกาทั่วโลกว่าเป็นอีกหนึ่งคอลเลกชันที่ต้องมีเอาไว้ในกรุสะสมของตนเองอย่างน้อย 1 เรือน