Maurice Lacroix Pontos S Diver 2024 นาฬิกาสปอร์ตดำน้ำสไตล์ Urban Jungle

Maurice Lacroix เปิดตัวนาฬิกา Pontos Diver รุ่นแรกในปี 2013 โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติการดำน้ำลึกสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพ หลักจากนั้นในปี 2016 ทางแบรนด์ได้มีการเปิดตัวนาฬิกา “AIKON” นาฬิกาสปอร์ตหรูที่สามารถเข้าถึงผู้คนที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในเมืองเป็นหลัก จึงได้ทำการยุติการผลิตคอลเลกชัน Pontos Diver ไปโดยปริยาย ซึ่งต่อมาทางแบรนด์ ML ทำตามกระแสเรียกร้องจากแฟน ๆ ด้วยการนำนาฬิกา Pontos Diver กลับมาอีกครั้งในชื่อ Pontos S Diver เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา โดยมีการปรับขนาดให้เล็กลงเพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งานได้กับทุกคนมากขึ้น

ในปีนี้ ML มีการอัปเดตคอลเลกชัน Pontos S Diver อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในปี 2024 พร้อมกัน 2 รุ่น โดยเริ่มตันที่รุ่น Limited Edition ที่มาในตัวเรือนวัสดุ Bronze ขนาด 42 มิลลิเมตร หนา 12 มิลลิเมตร กับหน้าปัดสีดำที่การตกแต่งผิวแบบเกรน หลักชั่วโมงและชุดเข็มสี Broze เคลือบสารเรืองแสง Super-Luminova โดยมีขอบ Bezel พร้อม Diving Scale อยู่ในด้านใต้กระจกหน้าปัด Sapphire โดยหมุนปรับตั้งได้จากเม็ดมะยมตรงตำแหน่ง 2 นาฬิกา 

นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีดำที่มีการตกแต่งผิวแบบเกรนเช่นเดียวกัน แต่มีการเพิ่มความโดดเด่นด้วยการเคลือบสีเหลืองไว้ที่ปลายเข็มวินาที เข็มนาที และปลายของหลักชั่วโมงที่เคลือบสีดำ ซึ่งเป็นเข็มที่ถูกใช้งานจริงในการคำนวณเวลาในขณะทำการดำน้ำ ซึ่งมาพร้อมกับระบบหมุนขอบ Bezel ด้านในหน้าปัดเช่นเดียวกัน โดยมาพร้อมกับตัวเรือน Stainless Steel เคลือบ DLC สีดำ ขนาด 42 มิลลิเมตร หนา 12 มิลลิเมตร 

นาฬิกาทั้งสองรุ่นผนึกแน่นด้วยฝาหลังแบบปิดทึบกันน้ำลึก 200 เมตร ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.ML115 (base Sellita SW200-1) ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง มาพร้อมกับสายหนังวัวสีน้ำตาลแบบวินเทจ และสายยางสีดำกับ Pin Buckle วัสดุเดียวกับตัวเรือน ที่สามารถเปลี่ยนสลับสายได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ Quick Release 

Maurice Lacroix Pontos S Diver 2024

Ref.PT6248-BRZ01-330-3 ผลิตจำนวนจำกัด 888 เรือน
ราคา 98,900 บาท 
Ref.PT6248-DLB00-330-2
ราคา 82,900 บาท 

วางจำหน่าย กรกฎาคม 2024
รายละเอียดเพิ่มเติม mauricelacroix.com

Initial Thoughts 

สำหรับนาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้ ถือว่ามีความเหมือนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยนาฬิกาทั้งสองเรือนนี้มาในรูปทรงของตัวเรือนและคุณสมบัติการดำน้ำในระดับเดียวกัน ซึ่งตัวเลือกแรกมาพร้อมกับวินเทจลุคสุดคลาสสิกจากกลิ่นอายของตัวเรือนบรอนซ์กับสายหนังโทนสีน้ำตาล ในขณะที่ตัวเลือกที่สองมาพร้อมกับโทนสีดำกับสายยางสุดเข้มที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ จึงเป็นสองทางเลือกที่ยากต่อการตัดสินใจ แต่ถ้าเลือกไม่ได้จะมีไว้ทั้งสองรุ่นก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด