หลังจากที่ Breguet ได้เปิดตัวนาฬิกา Marine Collection หนึ่งในคอลเลกชันนาฬิกาสปอร์ตหรูของแบรนด์ในรูปโฉมใหม่ เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับตัวเรือนทรงกลมสุดคลาสสิกที่ประกอบเข้ากับนาฬิกาแบบที่เรียกว่า Integrasted Bracelet และแบบสายยาง ที่มีการเพิ่มรายละเอียดที่สื่อถึงท้องทะเลอย่างลวดลาย Guilloché รูปคลื่นบนผิวน้ำไว้บนหน้าปัด ซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกับในหลากหลายรุ่นและฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นบอกเวลาแบบมาตรฐาน 3 เข็ม หรือรุ่นที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนขึ้นมาอย่างรุ่น Chronographe ที่สามารถจับเวลา และรุ่น Alarme Musicale ที่สามารถตั้งปลุกได้ด้วยเสียงอันก้องกังวาน
ในปีนี้ ทาง Breguet ยังได้นำเสนอความโดดเด่นที่ยากจะพบเห็นได้ในนาฬิกาสปอร์ตหรูทั่วไป นั่นคือ ด้วยนาฬิกา Marine Chronographe การประดับเพชร Bagatte จำนวน 8 เม็ด น้ำหนักรวม 0.24 กะรัต ไว้บนหลักชั่วโมงที่สลับกับเลขโรมัน บนหน้าปัดสีน้ำเงินที่ลวดลาย Guilloché รูปคลื่นบนผิวน้ำ พร้อมหน้าปัดย่อยแบบ Tri-Compax สำหรับฟังก์ชันจับเวลา และมีหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน และมีการประดับเพชร Bagatte จำนวน 90 เม็ด น้ำหนักรวม 3.62 กะรัต ไว้ที่ขอบหน้าปัด ตัวเรือนขนาด 42.3 มิลลิเมตร หนา 14 มิลลิเมตร ที่มีให้เลือกใน 2 วัสดุ ได้แก่ White Gold 19K หรือ Rose Gold 18K
ฝาหลังแบบโปร่งใสที่ผนึกแน่นด้วยกระจก Sapphire กันน้ำลึก 30 เมตร ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Chronograph In-House Cal.582QA ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง หรือ 4Hz สำรองพลังงาน 48 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชันจับเวลาต่อเนื่องสูงสุด 12 ชั่วโมง ผ่านการขัดแต่งอย่างประณีตงดงามและใช้ตุ้มเหวี่ยงขึ้นลานที่ผลิตจากวัสดุ Solid Gold 18 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขึ้นลานสูงขึ้น และนาฬิกายังมาพร้อมกับสายยางหรือสายหนังจระเข้สีน้ำเงินกับ Folding Buckle วัสดุ White Gold 18K หรือ Rose Gold 18K เช่นเดียวกับตัวเรือน
Breguet Marine Chronographe 5529
Ref.5529BB/YD/5WV/D0 White Gold Rubber
Ref.5529BB/YD/9WV/D0 White Gold Alingator
Ref.5529BR/YD/5WD/D0 Rose Gold Rubber
Ref.5529BR/YD/9WV/D0 Rose Gold Alingator
ราคา 4,784,000 บาท
วางจำหน่าย มิถุนายน 2024
รายละเอียดเพิ่มเติม breguet.com
Initial Thoughts
ชัดเจนเลยว่า Breguet ตั้งใจจะวางตำแหน่งของนาฬิกา Marine Chronographe 5529 เพื่อตอบสนองให้กับลูกค้าในกลุ่ม Hi-End Luxury เป็นหลัก ที่เน้นไปนอกจากจะชื่นชอบกลไกจักรพร้อมฟังก์ชันจับเวลาที่มีซับซ้อนสูงแล้ว ยังต้องหลงไหลในความหรูหราของตัวเรือนโลหะสูงค่าและอัญมณีที่ถูกยอมรับในระดับสากลว่ามีคุณค่าและมูลค่าสูงที่สุดอีกด้วย