MB&F Legacy Machine Perpetual EVO นาฬิกาแห่งเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางบนแผนที่แห่งจินตนาการ

MB&F เปิดตัวนาฬิกา LM Perpetual EVO ครั้งแรก ในรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น 3 รุ่น ในตัวเรือน Zerconium ตามด้วยรุ่น Titanium ที่นำเสนอพื้นหน้าปัด CVD สีเขียว โดยในปี 2024 ทาง MB&F ขอนำเสนอหน้าปัดสีน้ำเงิน Ice Blue ในตัวเรือน Titanium ที่มีความแข็งแกร่งทนทาน แทนที่รุ่นก่อนหน้าที่มาพร้อมหน้าปัดสีเขียว ทุกรุ่นประกอบเข้ากับสายยางที่รับกระชับข้อมือเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการสวมใส่นาฬิกาที่สะดวกสบายที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ  MB&F

แม้ว่าขนาดตัวเรือน 44 มิลลิเมตร ตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร ทำจาก Zerconium หรือ Titanium วัสดุโลหะผสม จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากนาฬิการุ่นเดิมในปี 2015 แต่การออกแบบของนาฬิกา EVO รุ่นใหม่ ถูกพัฒนาโดยไม่มีขอบตัวเรือน แต่จะมีกระจก Sapphire แบบ Dome ที่ประกอบเข้ากับตัวเรือนโดยตรง การออกแบบนี้เพื่อเปิดกว้างให้เห็นหน้าปัดนาฬิกาอย่างเต็มตา อีกทั้งยังช่วยในการอ่านค่าปฏิทินผ่านหน้าปัดย่อยได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงชมความงามของส่วนประกอบกลไกและดึงดูดสายตาด้วย Balance Wheel อันเป็นเอกลักษณ์ของ MB&F การนำเสนอหน้าปัดกว้างขวางขึ้นนี้ไม่ใช่แค่กำหนดค่าการออกแบบใหม่เท่านั้น แต่ยังคงต้องพัฒนาในส่วนของกระจกหน้าปัดเพื่อการปกป้องกลไกและรักษาความแข็งแกร่งของโครงสร้าง ซึ่งต้องคำนวณอัตราส่วนสูงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างแม่นยำ ซึ่งการที่ไม่มีขอบตัวเรือนจำเป็นต้องใช้ความร้อนในการผสานระหว่างกระจก Sapphire และตัวเรือนเข้าด้วยกันอีกด้วย

ปุ่มกดควบคุมการทำงานของฟังก์ชัน Perpetual Calendar ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบสปริงสองชั้นแทน เพิ่มความสบายในการสัมผัสและปรับตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย นาฬิกาสามารถกันน้ำได้ลึก 80 เมตร ด้วยเม็ดมะยมแบบขันเกลียวที่ปิดสนิท ถึงแม้จะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย แต่สำคัญเพราะการใช้เม็ดมะยมแบบขันเกลียวที่มีแกนดัน ซึ่งจะปลดเม็ดมะยมออกจากกลไกการขึ้นลานเมื่อถูกดันเข้าและขันให้แน่น จึงช่วยลดโอกาสที่จะไขลาน Mainspring barrel โดยไม่ตั้งใจ โดยองค์ประกอบใหม่เพิ่มเติมของ LM Perpetual EVO คือ FlexRing รูปวงแหวนที่พอดีระหว่างตัวเรือนและกลไก ทำหน้าที่ป้องกันแรงกระแทกตามแกนแนวตั้งและด้านข้าง FlexRing  ผลิตจาก Stainless Steel แบบบล็อกเดียว มอบความแข็งแกร่งเป็นพิเศษให้กับกลไก Perpetual Calendar ซึ่งเป็นฟังก์ชันสะท้อนความคลาสสิกและความสง่างาม แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์สูงที่สุดในบรรดากลไกซับซ้อนทั้งหมด

ในระบบแบบดั้งเดิมของฟังก์ชัน Perpetual Calendar การตั้งค่าเริ่มต้นทุกเดือนไว้ 31 วัน เมื่อถึงเดือนที่มีเวลาน้อยกว่า 31 วัน กลไกจะกระโดดข้ามวันที่ที่ไม่จำเป็นอย่างรวดเร็วมาวันที่ 1 ของเดือนใหม่ การปรับวันที่อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อกลไก ซึ่งนาฬิกา Legacy Machine Perpetual ใช้ระบบ “mechanical processor” ซึ่งประกอบด้วยชุด Disk ที่วางซ้อนทับกัน Processor ที่มาปฏิวัติวงการนาฬิกานี้ จะถูกตั้งค่าไว้ที่ 28 วันของทุก ๆ เดือน เนื่องจากทุกเดือนจะมีอย่างน้อย 28 วัน จากนั้นระบบจะทำการเพิ่มจำนวนวันตามที่กำหนดในแต่ละเดือน เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละเดือนจะมีจำนวนวันที่ถูกต้อง และไม่มีการ “ข้าม” เกินจำนวนวันที่จำเป็น ดังนั้นจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่วันที่จะข้ามผ่านอย่างไม่ถูกต้อง โดยช่วยให้การตั้งค่าปีปฏิทินได้อย่างถูกต้องแม่นยำตามรอบปีอธิกสุรทินสี่ปี ในขณะที่กลไกปฏิทินถาวรแบบดั้งเดิมกำหนดให้ผู้ใช้ต้องปรับตั้งค่าเดือนและปีให้ถูกต้องสูงสุดถึง 47 เดือน