ย้อนหลังกลับไปในปี 2016 แบรนด์ Maurice Lacroix ได้เปิดตัวนาฬิกาสปอร์ตหรู หรือที่ เรียกว่านาฬิกาในสไตล์ Sport Luxury ที่มีรูปแบบเหมาะสำหรับคนเมืองยุคใหม่ ที่เป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยของสถาปัตยกรรมในเมืองยุคใหม่ ให้เข้ากันกับความคลาสสิกของรายละเอียดนาฬิกาแบบ Analog ได้อย่างลงตัว โดยใช้ชื่อคอลเลกชันนาฬิกาสปอร์ตนี้ว่า “AIKON” ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ตามมาอีกมากมาย และกลายเป็นอีกหนึ่งในคอลเลกชันยอดนิยมขอแบรนด์ในปัจจุบัน
ล่าสุดกับการเปิดตัวนาฬิกา AIKON รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับตัวเรือนวัสดุ Stainless steel ที่ผ่านการเคลือบผิวด้วยเทคนิคแบบ PVD หรือ Physical Vapour Deposition ที่เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น โดยเริ่มต้นที่รุ่นตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร หนา 42 มิลลิเมตร หนา 11 มิลลิเมตร เคลือบ PVD สีเทา Gunmetal และรุ่นตัวเรือน 39 มิลลิเมตร หนา 11 มิลลิเมตร เคลือบ PVD สีน้ำเงิน กันน้ำลึก 200 เมตร มาพร้อมกับขอบหน้าปัดทรงกลมที่สลักเป็นรูปกรงเล็บ 6 ตำแหน่ง ที่ได้แรงบันดาลใจมากนาฬิกา “Calypso” ซึ่งเป็นคอลเลกชันที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของแบรนด์ Maurice Lacroix ในยุค 1990s
หน้าปัดของทั้งสองรุ่นเคลือบสีในโทนเดียวกับตัวเรือนและมีการสลักลวดลาย “Clous de Paris” หลักชั่วโมงและชุดเข็มเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova ที่มาในรูปแบบหน้าปัดที่สมดุลที่ไม่มีหน้าต่างบอกวันที่ ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน ฝาหลังแบบโปร่งใสโชว์การทำงานของกลไก Automatic Cal.ML115 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง ขัดแต่งลวดลาย perlage และ colimaçon โดยมาพร้อมกับสายยางโทนสีเดียวกับตัวเรือนและมีการประดับโลโก้ “M” โลหะ กับ Pin buckle Steel เคลือบ PVD โทนสีเดียวกับตัวเรือน และใช้ระบบ Easy strap ที่สามารถเปลี่ยนสลับได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ
Maurice Lacroix AIKON Automatic PVD Limited Edition
Ref.AI6008-PVB00-330-2 Black PVD
ผลิตจำนวนจำกัด 888 เรือน
ราคา 90,900 บาท
Ref.AI6007-PVC00-430-4 Blue PVD
ผลิตจำนวนจำกัด 888 เรือน
ราคา 90,900 บาท
วางจำหน่าย มกราคม 2024
รายละเอียดเพิ่มเติม mauricelacroix.com
Initial Thoughts
นาฬิกาคู่นี้ เปรียบเสมือนการฉลองความสำเร็จให้กับคอลเลกชัน AIKON ซึ่งนับเป็นตัวแทนของนาฬิกาสปอร์ตสำหรับคนเมืองอย่างแท้จริง โดยเลือกใช้โทนสีที่เข้มขรึมสำหรับรุ่นตัวเรือน 42 มิลลิเมตร และโทนสีเรียบหรูในรุ่นตัวเรือน 39 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นคู่สีที่ลงตัวอย่างชัดเจน และที่สำคัญมีการเลือกใช้หน้าปัดแบบไม่มีวันที่ซึ่งทำให้นาฬิกามีหน้าปัดที่ลงตัวและสมดุลมาก ๆ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายเช่นเดียวกับรุ่น AIKON Club Thailand Limited Edition ที่วางจำหน่ายสำหรับแฟนคลับชาวไทยเท่านั้น ในปี 2023 ที่ผ่านมา