หนี่งในภาพจำของนาฬิกา Grand Seiko แนวเดรสคลาสสิกที่หลายคนคงจำได้ นั่นคือนาฬิกา Grand Seiko รุ่น SBGW001 ที่เปิดตัวครั้งแรกในช่วงต้นของยุค 2000s โดยมาพร้อมกับหน้าปัดสี Ivory ในตัวเรือนทรงกลมสุดคลาสสิกที่ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานแบบ In-House ของแบรนด์ ซึ่งมีนาฬิกาที่ใช้กลไกแบบนี้เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น และมีการปรับโฉมอีกครั้งในปี 2019 ในรหัส SBGW231
เพื่อเป็นการต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง Grand Seiko รีเฟรชคอลเลกชัน Elegance ด้วยการนำความคลาสสิกของนาฬิกา GS จากยุค 2000s กลับมาอีกครั้ง โดยมาพร้อมกับหน้าปัดสี Ivory สุดคลาสสิกร่วมกับเข็มชั่วโมง-นาที ทรง Dauphine และหลักชั่วโมงทรง Baton ที่มีการขัดแต่เหลี่ยมมุมแบบสุดประณีต ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของนาฬิกา GS ยุคใหม่ โดยวางหลักชั่วโมงแบบเดี่ยวสลับกับแบบคู่ไว้ตรงตำแหน่ง 3-6-9-12 นาฬิกา และใช้กระจกหน้าปัด Sapphire แบบ Box เคลือบตัดแสงสะท้อนด้านใน
ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 37.3 มิลลิเมตร หนา 11.7 มิลลิเมตร ที่ผ่านการขัดเงาด้วยเทคนิค Zaratsu ที่เป็นการขัดผิวนาฬิกาให้เงางามราวกระจกเงาที่มิติภาพผิดเพี้ยนน้อยที่สุด มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีดำกับ Folding buckle Steel นาฬิกากันน้ำลึก เมตร 30 เมตร ด้วยฝาหลังแบบโปร่งใสผนึกแน่นกับตัวเรือนด้วยสกรู 6 ตัว ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Manual-winding In-House Cal.9S64 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับ -3/+5 วินาที/วัน และสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ในระดับ 4,800 A/m
นอกจากนี้ Grand Seiko ยังมีการเปิดตัวนาฬิการุ่น SBGW305 ที่มาในขนาด มิติ และวัสดุตัวเรือน รวมทั้งกลไกจักรกลแบบเดียวกัน แต่มาพร้อมกับหน้าปัดสีเงินขัดแต่ลวดลาย Sunburst และสายโลหะ Steel แบบข้อละเอียดที่เรียกว่าสายเมล็ดข้าว โดยมาเป็นตัวแทนของรุ่น SBGW235 ที่เปิดตัวในปีเดียวกับ SBGW231
Grand Seiko Elegance Collection Manual-winding
Ref.SBGW301
ราคา 605,000 JPY
Ref.SBGW305
ราคา 715,000 JPY
วางจำหน่าย มกราคม 2024
รายละเอียดเพิ่มเติม grand-seiko.com
Initial Thoughts
สำหรับนาฬิการุ่น SBGW301 และ SBGW305 นั้น เปรียบเสมือนทายาทสายตรงของนาฬิกา Grand Seiko แบบคลาสสิกในอดีต รหัส SBGW001 และ SBGW005 ที่ยังคงเอกลักษณ์ของรูปทรง ขนาด ของตัวเรือน รวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ บนหน้าปัดทั้งชุดเข็มและหลักชั่วโมงเอาไว้ แต่ในรุ่นดั้งเดิมจะใช้โลโก้ Seiko ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา ร่วมกับ Grand Seiko ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา หรือที่เรียกในวงการนักสะสมว่า Double Logo นั่นเอง