หลังจากที่ Casio ได้เปิดตัวนาฬิกา G-Shock ในตระกูล GMW-5000 นาฬิกาสปอร์ตสุดคลาสสิกที่มาในรูปแบบของตัวเรือน Full Metal ที่ใช้วัสดุหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Stainless Steel ที่สามารถทำสีสันหรือลวดลายได้แบบหลากหลาย หรือจะเป็นวัสดุ Titanium ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทาน ไปจนถึงรุ่นโลหะสูงค่าอย่างทองคำ Yellow Gokd 18K ซึ่งยังคงรูปลักษณ์สี่เหลี่ยมสุดคลาสสิกนาฬิกา G-Shock จากรุ่น DW-5000C นาฬิการุ่นแรกที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1983 หรือเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
จนเวลาเดินมาทางถึงปี 2023 นาฬิกา G-Shock ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี โดยเลือกนำตัวเรือนในตระกูล GMW-5000 ที่มาในตัวเรือน Forged Carbon แบบ Monocase ที่เป็นชิ้นเดียวโดยไม่มีฝาหลังเพื่อความคงทนแข็งแรง และใช้สายนาฬิกา บานพับ ตัวล๊อกสายที่ผลิตจากวัสดุ Carbon แบบ Laminate ที่เป็นการนำแผ่น Carbon มาเรียงซ้อนกันและอัดให้แน่นด้วยกรรมวิธีแบบพิเศษ โดยมีการใช้วัสดุ Titanium ในส่วนของโครงโมดูลหน้าจอและกลไกรวมทั้งปุ่มกดด้านข้างตัวเรือน ซึ่งมีน้ำหนักรวมเพียง 65 กรัม ที่เบากว่ารุ่นตัวเรือนและสาย Steel ถึง 2.5 เท่า
นาฬิกาแสดงผลด้วยจอ LCD แบบ Negative ด้วย Module 3543 ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันแบตเตอรี่ชาร์จด้วยพลังงานแสง Togh Solar ที่สามารถเก็บพลังงานได้ 10 เดือนในโหมดปกติ และ 22 เดือนในโหมดประหยัดพลังงาน พร้อมบอกสถานะแบตเตอรี่ (L, M, H) รองรับระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth ผ่าน G-Shock Connected app บน Smartphione ทั้งในระบบ iOS และ Android บอกเวลาแบบ World timer ตั้งเวลาอัตโนมัติผ่าน Mutiband 6 จับเวลาได้ละเอียดสูงสุด 1/100 วินาที โดยนาฬิกามาพร้อมกล่องรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่นอีกด้วย
Casio G-Shock GCW-B5000UN
Ref.GCW-B5000UN-1 Black
Ref.GCW-B5000UN-6 Purple
ราคา 82,000 บาท
วางจำหน่าย ธันวาคม 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม casio.com
Initial Thoughts
สำหรับนาฬิกา G-Shock ยุคใหม่อย่าง GCW-5000 นั้นเป็นเหมือนเป็นเหมือนทายาทสายตรงนาฬิกา G-Shock รุ่นแรกจากปี 1983 แต่มีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ใส่ลงไปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจอเรืองแสงแบบใหม่ การชาร์จพลังงานด้วยแสดง ระบบประหยัดพลังงาน รวมทั้งการเชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth ผ่าน smartphone ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Casio ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ก้าวล้ำนำสมัยเสมอมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงอนาคตอย่างแน่นอน