TAG Heuer Monaco Chronograph Night Driver ซิ่งฝ่าความมืดไปกับนาฬิกาจับเวลาสุดคลาสสิก

เป็นเวลากว่า 50 ปี ที่นาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph ยังคงโลดแล่นเคียงข้างไปกับวงการมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างยาวนานจนมาถึงปัจจุบัน ได้มีการพัฒนากลไกจักรกล Calibre Heuer 02 ซึ่งเป็นกลไกจับเวลาที่ผลิตขึ้นมาแบบ In-House และยังถูกนำมาผลิตเป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่เกี่ยวข้องกับวงการมอเตอร์สปอร์ตตามมาอีกหลายรุ่น อาทิ รุ่น Monaco Green Dial Limited Edition นาฬิการุ่นพิเศษสำหรับรายการแข่งขันรถคลาสสิก หรือ Monaco Chronograph 39mm Calibre Heuer 02 ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง ‘GRAN TURISMO แกร่งทะลุไมล์’ ที่เพิ่งออกฉายในช่วงเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา 

Lens flare over black background

ล่าสุด TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการขับรถสปอร์ตในช่วงเวลากลางคืน ด้วยการใช้หน้าปัดหลักสีนำ้เงินที่เรียกว่า ‘Monaco Blue’ าสลับกับพื้นหน้าปัดสีขาวที่เคลือบสารเรืองแสง Super Luminova ซึ่งจะเรืองแสงสีฟ้าในตอนที่อยู่ในที่มืดในส่วนขอบหน้าปัดและหน้าย่อยสำหรับจับเวลาตรงตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ชุดเข็มทั้งหมดเคลือบสีดำ มีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัดแบบ Box และมาพร้อมกับสายหนังวัวสีดำเจาะรูสไตล์เรซซิ่งเย็บด้ายสีขาวกับ Folding buckle Titanium Grade 5 เคลือบ DLC สีดำแบบเดียวกับตัวเรือน 

Lens flare over black background

ตัวเรือน Titanium Grande 5 เคลือบสีดำด้วยเทคนิค DLC ขนาด 39×39 มิลลิเมตร หนา 14.7 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 100 เมตร ฝาหลังแบบโปร่งใสสลักหมายเลขประจำเรือน XXX/600 โชว์การทำงานของกลไก Automatic Chronograph Cal.Heuer 02 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง หรือ 4Hz และสำรองพลังงานสูงสุดได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง โดยเป็นกลไกจับเวลาแท้ ๆ ที่ไม่ต้องอาศัยชุดโมดูลจับเวลามาประกอบลงไปกับกลไกปกติเหมือนรุ่นก่อนหน้า ใช้เฟือง Column Wheel และ Virtical Clutch ที่มีความนุ่มนวล แม่นยำและทนทานมากขึ้น ขัดแต่งกลไกด้วยลวดลาย Geneva Stripes และเคลือบสีดำบน Rotor รูปทรงล้อแม๊กสีดำพร้อมสกรีนตัวอักษรสีฟ้าเข้ากับเฟือง Column Wheel สีฟ้าในโทนเดียวกัน

TAG Heuer Monaco Chronograph Night Driver

Ref. CBL2181.FC6515 ผลิตจำนวนจำกัด 600 เรือน 
ราคา 368,500 บาท
วางจำหน่าย ตุลาคม 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม tagheuer.com

Initial Thoughts

นับเป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตแบบ Limited Edition อีกรุ่นที่น่าสนใจมาก เพราะไม่บ่อยนักสำหรับการโชว์เทคโนโลยีการผลิตหน้าปัดแบบนี้ออกมา ซึ่งถือเป็นการ เพื่อถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการแข่งรถในสไตล์โมเดิร์น และนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ทาง TAG Heuer ได้นำมาใช้เป็นครั้งแรกกับนาฬิกาในคอลเลกชั่น Monaco Chronograph