หลังจากในปี 2020 ที่ผ่านมา Hamilton ได้ทำการเปิดตัวนาฬิกาในคอลเลกชั่น Khaki Field Auto ที่มาในตัวเรือนวัสดุ Tianium ในแบบ 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ รุ่นผิวขัดลวดลาย Satin และรุ่นเคลือบผิวด้วยเทคนิค DLC สีดำ โดยนาฬิกาทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับสายหนังวัวและขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลในระบบ Automatic ซึ่งมีคุณบัติอันยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องของความเที่ยงตรงและความทนทานตามมาตรฐานนาฬิกาสวิส
มาถึงปีนี้ ทางแบรนด์ Hamilton ได้มีการอัพเดทคอลเลกชั่น Khaki Field Auto อีกครั้ง โดยมาพร้อมกับหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มพร้อมด้วยหลักชั่วโมงตัวเลขอารบิก 1-12 แบบ Paint ที่เคลือบสารเรืองแสง Super Luminova เช่นเดียวกับบนชุดเข็มบอกเวลา และมีสเกลบอกเวลา 13-24 ในวงหน้าปัดด้านใน และสเกลวินาทีด้านนอกสีขาว โดยนาฬิการุ่นนี้ไม่มีหน้าต่างบอกวันที่ จึงเป็นการเพิ่มให้หน้าปัดสีมีความคลาสสิกและสมดุลมากขึ้นอีกด้วย และมีการใช้กระจกหน้าปัด Sapphire
ตัวเรือน Titanium ขนาด 42 มิลลิเมตร หนา 11.45 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 10 bar หรือ 100 เมตร มาพร้อมกับสาย Titanium แบบ 3 Links ที่ผ่านการขัดแต่งผิวด้วยลวดลาย Satin ทั้งตัวเรือนและสายนาฬิกา ฝาหลังขันเกลียวแบบโปร่งใสโชว์การทำงานของกลไก Automatic Cal.H-10 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง
นอกจากนี้ Hamilton ยังมีการอัพเดทรุ่นหน้าปัดสีดำ ที่มาพร้อมกับหลักชั่วโมงตัวเลขอารบิก 1-12 แบบ Paint ที่เคลือบสารเรืองแสง Super Luminova เช่นเดียวกับบนชุดเข็มบอกเวลาสีดำ และมีสเกลบอกเวลา 13-24 ในวงหน้าปัดด้านใน และสเกล 60 วินาทีด้านนอกสีขาว ที่ตัดกับหลักบอกทุก 5 วินาที ด้วยตัวเลขอารบิกสีส้ม ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire
ตัวเรือน Titanium ขนาด 38 หนา 11.68 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 100 เมตร มาพร้อมกับสาย Titanium แบบ 3 Links ที่ผ่านการเคลือบสีดำด้วยเทคนิค PVD บนผิวแบบ Sand blasted ทั้งตัวเรือนและสายนาฬิกา ฝาหลังขันเกลียวแบบโปร่งใสโชว์การทำงานของกลไก Automatic Cal.H-10 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง
Hamilton Khaki Field Titanium Auto Collection 2023
Ref.H70545140 Blue – Titanium
ราคา 45,000 บาท
Ref.H70215130 Black- PVD Titanium
ราคา 45,900 บาท
วางจำหน่าย สิงหาคม 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม hamiltonwatch.com
Initial Thoughts
เรียกว่าเป็นการรีเฟรซคอลเลกชั่น Khaki Field Titanium Auto ให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยการเพิ่มรุ่นสาย Titanium ที่หลายคนรอคอย ซึ่งนอกจากความสวยงามลงตัวแล้ว ยังเพิ่มเรื่องของความคุ้มค่าและความสะดวกในการใช้งานสำหรับคนที่ต้องการสายโลหะในแบบสายลุยตัวจริง