เตรียมพบกับงานนิทรรศการ Patek Philippe Watch Art Grand Exhibition Tokyo 2023 ณ กรุงโตเกียว ในช่วงเดือนมิถุนายน ศกนี้

Patek Philippe ได้เลือกกรุงโตเกียว เป็นสถานที่ในการจัดงานนิทรรศการ Patek Philippe Watch Art Grand Exhibition คร้ังที่ 6 ต่อเนื่องจาก สิงคโปร์ (2019), นิวยอร์ค (2017), ลอนดอน (ปี 2015), มิวนิค (ปี 2013), ดูไบ (2012) ตามลําดับ ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศตลาดหลักสําหรับแบรนด์ Patek Philippe โดยมีนักสะสมนาฬิกาจํานวนมากท่ีเล็งเห็นคุณค่า รวมทั้งมีความชื่นชอบเกี่ยวกับความเป็นเลิศด้านเทคนิคและความชํานาญที่มีความละเอียดถี่ถ้วน นอกจากนั้นแล้วลูกค้าญี่ปุ่นยังดํารงไว้ด้วยวัฒนธรรมที่มีความเคารพต่อประเพณี และเป็นสถานที่ที่มีความเหมาะสมที่เข้าใจถึง “ความดั้งเดิมภายใน นวัตกรรมใหม่” อันเป็นเส้นทางท่ี Patek Philippe ได้ดําเนินมาตั้งแต่ปี 1839

งานนิทรรศการ Patek Philippe Watch Art Grand Exhibition Tokyo 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 25 มิถุนายน 2023 ณ Sumitomo Sankaku Hiroba ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงตระหง่านในย่านธุรกิจ Nishi-Shinjuku ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าชินจูกุที่คึกคักและแน่นหนาที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเพียงไม่กี่ก้าว โดยมีผู้โดยสารท่ีเข้ามาใช้บริการประมาณ 3.5 ล้านคนต่อวัน พื้นที่จัดงานเป็นลานที่มีบริเวณพื้นที่กว้างถึง 3,200 ตารางเมตร ร่วมกับอาคารสูง ชินจูกุ ซูมิโตโม ลานพื้นที่ครอบคลุมด้วยหลังคากระจกขนาดใหญ่ที่มีความสูงจากพื้นในจุดที่สูงสุดถึง 25 เมตร โดยปราศจากเสาภายในเป็นตัวรองรับ บริเวณลานพื้นที่จัดงานได้รับแสงจากธรรมชาติและใช้พื้นที่ประดับตกแต่งถึง 2,500 ตารางเมตร ซึ่งจัดว่าใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการจัดงานนิทรรศการที่ผ่านมา

ในงานนิทรรศการจะมีการแสดงนาฬิกาทั้งหมดประมาณ 500 เรือน พร้อมผลงานที่สะท้อนถึงความงดงามโดดเด่นของทักษะงานฝีมืออันหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าชมงานจะได้ชื่นชมคอลเล็กชันนาฬิกาปัจจุบันทั้งหมดของบริษัท ที่ประกอบด้วยโมเดลนาฬิกาสําหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีจํานวนมาก จนถึงนาฬิกาที่มีกลไกทํางานทางเทคนิคที่ซับซ้อนที่สุด และงานฝีมือท่ีหาได้ยากที่ยังรักษาเอาไว้ด้วยความระมัดระวังอย่างสูง อาทิ การวาดภาพขนาดเล็กบนการเคลือบลงยาอินาเมล การเคลือบลงยาอินาเมลแบบครัวซอนเน่ การแกะสลักด้วยมือ การฝังประดับบนไม้ขนาดเล็ก การแกะสลักลวดลายด้วย มือแบบกิโยเช่ และการประดับอัญมณี เป็นต้น ซึ่งจะนํามาแสดงในงานนิทรรศการครั้งน้ี พร้อมการนําเสนอความงดงามที่โดดเด่นของนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์ถึง 50 เรือน ร่วมกับนาฬิการุ่นลิมิตเต็ดเอดิชั่น (นาฬิกาตั้งโต๊ะทรงโดม นาฬิกาพก และนาฬิกา ข้อมือ) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นและบทละครทางศิลปะ นอกจากน้ีแล้วยังมีการสาธิตการทํางาน จากช่างฝีมือให้ผู้เข้าชมได้เห็นด้วย

นอกจากนี้ยังมีการนําเสนอผลงานประมาณ 190 ชิ้น ที่จัดแสดงอยู่ท่ีพิพิธภัณฑ์ Patek Philippe ในเจนีวา โดยได้นํามาจัดแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนาฬิกาบางเรือนจัดว่าเป็นนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในขณะท่ีนาฬิกาหลายเรือนเป็นผลงานชิ้นเอกสะท้อนให้เห็นถึงเทคนิคและงานช่างฝีมือสร้างสรรค์อันแสดงถึงประวัติความเป็นมาของนาฬิกา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาพกระบบปฏิทินถาวรเรือนแรกที่นําเสนอเมื่อปี 1925 (รุ่น No. P-72) นาฬิกาพกเวิร์ดไทม์ 1415 HU ที่สร้างสรรค์มาในปี 1948 (รุ่น No. P-1026) และนาฬิกาพกที่ประกอบด้วยกลไกมินิท รีพีทเตอร์ และพลังงานสํารอง 30 วัน ที่นําเสนอมาในปี 1918 ซึ่งเจมส์ วาร์ด แพคการ์ด เป็นเจ้าของนาฬิกาเรือนน้ี (รุ่น No. P-1703) อีกส่วนของงานซึ่งเป็นส่วนที่นําเสนอขึ้นมาใหม่ชื่อว่า “เจ้าของนาฬิกาประวัติศาสตร์” เป็นการนําเสนอผลงานนาฬิกาห้อยคอที่รังสรรค์ให้กับสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย สําหรับงานนิทรรศการอันยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นในลอนดอนเมื่อปี 1851 (รุ่น No. P-24) รวมถึงนาฬิกาอีกหลายเรือนท่ีเป็นของผู้มีชื่อเสียง

ส่วนสุดท้ายจะมีการจัดแสดงคอลเล็กชั่นกลไกท่ีออกแบบและสร้างสรรค์โดย Patek Philippe ในพื้นที่เฉพาะเพื่อนําเสนอขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วน ในขณะที่พื้นที่อีกส่วนจะเป็นการนําเสนองานด้านการวิจัยและพัฒนา ด้วยการนําเสนอนาฬิกาที่มีกลไกความซับซ้อน และเป็นครั้งแรกของการจัดแสดงผลงานของกลไกที่ซับซ้อนสูง รวมไปถึงพื้นที่ที่เรียกว่า “ความเป็นเลิศด้านเสียง” เพื่อใช้แสดงผลงานของนาฬิกาท่ีตีให้เสียง ร่วมกับนาฬิกาท่ีมีกลไกความซับซ้อนสูงสุดในบรรดานาฬิกาท้ังหมด อีกทั้งในงานนี้ผู้เข้าชมจะได้มีโอกาสพบกับช่างนาฬิกา Patek Philippe ผู้มีความสามารถในงานฝีมือที่เป็นเลิศ โดยจะมีการสาธิตให้เห็นถึงกลไกทํางานหลายประเภทและนอกจากนี้ยังได้มีโอกาสชื่นชมนาฬิกา Patek Philippe ที่มีเจ้าของเป็นชาวญี่ปุ่นที่นำมาแสดงในงานนี้ด้วย และเช่นเดียวกับที่ผ่านมา งานนิทรรศการอันยิ่งใหญ่ในโตเกียวครั้งนี้ จะมีการเปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิตเต็ดเอดิชั่นสําหรับทุกกลุ่มใน คอลเล็กชันของ Patek Philippe รวมไปถึงผลงานด้านเทคนิคที่นําเสนอเป็นครั้งแรกในโลก