Audemars Piguet Royal Oak Selfwinding Chronograph Onyx & Baguette-Cut นาฬิการุ่นพิเศษสำหรับนักสะสมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากจะมีการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในคอลเลกชั่น Royal Oak Self Winding Chronograph 38mm ที่มาพร้อมกับหน้าปัด Grande Tapisserie’ เคลือบสีนำ้เงินเข้มไล่เฉดหรือทีเรียกว่า Blue Smoked Dial และมีการประดับประดาเพชร Baguette-Cut ไว้ที่ขอบหน้าปัดแล้ว  ปีนี้ Audemars Piguet ยังมีการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตแบบ Limited Edition ซึ่งมีจำนวนการผลิตที่เรียกว่าน้อยมากจริง ๆ

โดยนาฬิการุ่นพิเศษนี้ มาพร้อมกับหน้าปัด Dazzling Onyx หรือหน้าปัดนิลสีดำสนิทที่มีผิวเงางาม และเพิ่มความหรูหราด้วยการประดับเพชร Baguette-Cut จำนวน 12 ชิ้น น้ำหนักประมาณ 0.12 กะรัต ไว้ที่หลักชั่วโมง และเข็มจับเวลากับเข็มชั่วโมง-นาทีเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova รวมทั้งขอบหน้าปัดย่อยแบบ Tri-Compax และโลโก้แบรนด์ที่ผลิตจากวัสดุ White Gold หรือ Pink Gold 18K เหมือนกับตัวเรือนและสายนาฬิกา ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน 

ตัวเรือนขนาด 38 มิลลิเมตร หนา 11 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 50 เมตร และสายนาฬิกาผลิตจากวัสดุ White Gold หรือ Pink Gold 18K มีการประดับเพชร Baguette-Cut จำนวน 32 ชิ้น น้ำหนักประมาณ 1.66 มิลลิเมตร ไว้ที่ขอบหน้าปัดปัดทรง 8 เหลี่ยมสุดคลาสสิก ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Chronograph Cal.2385 ความถี่ 21,600 สำรองพลังงาน 40 ชั่วโมง จับเวลาต่อเนื่องสูงสุด 12 ชั่วโมง และควบคุมระบบจับเวลาด้วยกลไก Column Wheel 

Audemars Piguet Royal Oak Selfwinding Chronograph Onyx Dial & Baguette Diamonds

Ref.26715BC.ZZ.1356BC.02 White Gold 18K
ผลิตจำนวนจำกัด 25 เรือน
ราคา 125,000 CHF
Ref.26715OR.ZZ.1356OR.02 Pink Gold 18K
ผลิตจำนวนจำกัด 25 เรือน 
ราคา 125,000 CHF
วางจำหน่าย ภายในปี 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม audemarspiguet.com

Iniitial Thoughts 

นาฬิกา Royal Oak Selfwinding Chronograph 38mm ทั้งสองเรือนนี้ ลงตัวสำหรับคุณสุภาพสตรีหรือคุณสุภาพบุรุษข้อมือขนาดย่อม ที่ชื่นชอบความเรียบหรูของหน้าปัดสีดำสนิทที่ผลิตจาก Onyx หรือนิล ซึ่งถูกจัดว่าเป็นหน้าปัดที่มีขั้นตอนในการผลิตที่ซับซ้อนมาก ๆ และยิ่งรวมกับเพชรที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี และถูกเจียรไนแบบ Bagutte-Cut ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญจากช่างอัญมณีระดับสูง และที่สำคัญผลิตขึ้นมารุ่นละ 25 เรือนเท่านั้น โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)  ให้นักสะสมได้ครอบครองก่อนใคร ถ้านักสะสมชาวไทยท่านใดสนใจ แนะนำให้รีบสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AP House Bangkok