Grand Seiko Spring Drive Chronograph GMT SBGC253 นาฬิกาสปอร์ตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสิงโตแห่ง Grand Seiko

ในปี 2019 Grand Seiko ได้เปิดตัวนาฬิกาสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิงโต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์นับตั้งแต่การเปิดตัว Grand Seiko ครั้งแรกในปี 1960 โดยดีไซน์ซีรีส์ใหม่ได้นำความล้ำหน้าที่แตกต่างมาสู่นาฬิกาสปอร์ตของ Grand Seiko ด้วยเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมตลอดจนตัวเรือนที่แข็งแกร่ง และล่าสุด นาฬิกา Spring Drive Chronograph GMT ดีไซน์ทรงพลังนี้ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นสปอร์ตของ Grand Seiko เป็นครั้งแรก 

เริ่มต้นที่หน้าปัดสีเงินที่มีการขัดแต่งลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากขนแผงคอของสิงโตที่สื่อถึงพลังและความแข็งแรงซึ่งมีเฉพาะในนาฬิการุ่นนี้เท่านั้น และมีการสลักลวดลาย Perlage ไว้บนหน้าปัดย่อยสำหรับบันทึกเวลาแบบ Tri-Compax มีหน้าต่างวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา และสเกลบอกพลังงานสำรองตรงตำแหน่ง 7 นาฬิกา อันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกา Spring ทุกรุ่นไว้บนหน้าปัด ชุดเข็มบอกเวลาและหลักชั่วโมงมีการเคลือบสารเรืองแสง Lumibrite สีเขียว และสีฟ้าบนเข็ม GMT ที่บอกเวลาไทม์โซนที่ 2 บนสเกล 24 ชั่วโมง สีขาวบนขอบ Bezel วัสดุ Ceramic สีดำ ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน และมีการสลักลวดลายบนปุ่มกดจับเวลาให้เว้าลงเพื่อความแม่นยำในการใช้งานจริงอีกด้วย 

ตัวเรือนขนาด 44.5 หนา 16.8 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 200 เมตร รวมทั้งสายนาฬิกาพร้อมบานพับแบบ 3 ทบ ที่สามารถปรับความยาวได้อย่างรวดเร็วพร้อมระบบล๊อกแบบ 2 ชั้น ที่ผลิตจาก Titanium แบบความหนาแน่นสูงที่มีน้ำหนักเบากว่า Steel ถึง 30% ผ่านการขัดแต่งเหลี่ยมมุมให้มีคมสัน ที่สื่อถึงกรงเล็บอันแหลมคมของสิงโต ร่วมกับการขัดแต่งลวดลาย Satin และขัดเงาด้วยเทคนิค Zaratsu อันเลื่องชื่อ ผนึกเข้ากับฝาหลังขันเกลียวแบบโปร่งใสโชว์การทำงานของกลไก Spring Drive Cal.9R86 สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง มาพร้อมกับฟังก์ชั่นจับเวลาต่อเนื่องสูงสุด 12 ชั่วโมง และฟังก์ชั่น GMT บอกเวลา 2 ไทม์โซน

Grand Seiko Spring Drive Chronograph GMT

Ref.SBGC253
ราคา 501,800 บาท 
วางจำหน่าย มีนาคม 2023
รายละเอียดเพิ่มเติม grand-seiko.com

Initial Thoughts 

สิงโต เป็นดั่งสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงจุดมุ่งหมายของคณะทำงาน Grand Seiko รุ่นแรก ที่มุ่งมั่นสร้างเรือนเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้ ทั้งในแง่ของความแม่นยำ ความทนทาน และความสวยงาม ซึ่งปรากฏให้เห็นในหลายรูปแบบบนนาฬิกาเรือนนี้ ซึ่งหลักการทำงานเหล่านี้ถูกฝังอยู่ในนาฬิกาของ Grand Seiko ทุกเรือน ตั้งแต่ปี 1960 มาจนถึงปัจจุบัน