งานประกาศรางวัล Grand Prix d’Horlogerie de Genève ประจำปี 2022 หรือ GPHG Prize Winnder 2022 ได้ถูกจัดขึ้นที่ Théatre du Léman ในกรุงเจนีวา โดยมีนาฬิการวมทั้งสิ้น 15 รุ่นที่ได้รับรางวัลในแต่ละสาขา และอีก 5 รางวัลที่ได้รับมอบจากความสำเร็จในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องบอกเวลา สำหรับรางวัลชนะเลิศสูงสุดจะมอบให้แก่นาฬิกาที่ได้คะแนนรวมมากที่สุดจากทุกสาขารางวัล โดยงานประกาศรางวัลในปีนี้ คณะกรรมการที่ร่วมตัดสินจำนวน 30 ท่านได้เลือกให้ Grand Seiko Kodo Constant-force Tourbillon เป็นผู้ชนะเลิศรางวัล Chronometry Prize ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนาฬิกาที่มีประสิทธิภาพความแม่นยำในการบอกเวลาสูง
Grand Seiko Kodo Constant-force Tourbillon เป็นนาฬิกาจักรกลระดับความซับซ้อนสูงรุ่นแรกของ Grand Seiko ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Cal.9ST1 นวัตกรรมกลไกรูปแบบเฉพาะตัวที่สร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกให้กับโลกนาฬิกา ด้วยการรวมกลไก Torubillon และระบบกลไก Contant-force สำหรับสร้างแรงคงที่เข้าเป็นหนึ่งบนแกนเดียวกัน โดยนาฬิการุ่นนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Kodo (โคโดะ) ซึ่งหมายถึง “การเต้นของหัวใจ” ในภาษาญี่ปุ่น ตามลักษณะการเคลื่อนไหวอันเป็นเอกลักษณ์ของระบบกลไกทั้งสองและเสียงของจังหวะที่ระบบกลไกสร้างขึ้น
กรง Tourbillon ที่อยู่วงในจะเคลื่อนหมุนอย่างราบรื่นพร้อมกับ Balance Wheel ที่แกว่งตัวอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราความถี่ 8 ครั้งต่อวินาที ขณะที่กรง Constant-force ที่อยู่วงนอกจะเคลื่อนหมุนที่จังหวะละ 1 วินาที ซึ่งจะสร้างเสียงโน้ตตัวที่ 16 ให้รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจและส่วนประกอบต่างๆ ถูกตกแต่งอย่างประณีตด้วยมือโดยใช้เทคนิคที่หลากหลายเพื่อให้องค์รวมของกลไกเกิดประกายที่เงียบสงบ อันเป็นจุดเด่นของ Grand Seiko และตัวเรือนถูกสร้างขึ้นจากวัสดุ Platinum 950 ร่วมกับวัสดุ Brilliant hard Titanium ของ Grand Seiko เพื่อให้คงความงดงามได้อย่างยาวนาน
ผู้รับมอบรางวัล ได้แก่ มร.อะกิโอะ ไนโตะ (ขวา) ประธานบริษัท Seiko Watch Corp. และ มร.ทาคุมะ คาวาอุชิยะ (ซ้าย) นักออกแบบกลไกของ Grand Seiko ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและประกอบนาฬิกาที่ได้รับรางวัลรุ่นนี้ โดย มร.อะกิโอะ กล่าวในการรับรางวัลครั้งนี้ว่า “ทุกคนที่ Grand Seiko รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับเกียรติที่ได้รับในค่ำคืนนี้ เนื่องจาก Kodo เป็นนาฬิกาจักรกลระดับความซับซ้อนสูงรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 62 ปีของแบรนด์ ผมอยากจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อคณะกรรมการผู้ตัดสินที่เล็งเห็นถึงความสำเร็จของคณะวิศวกรและนักประดิษฐ์นาฬิกาของเราซึ่งมี ทาคุมะ คาวาอุชิยะ เป็นผู้นำทีม”
