อย่างที่รู้กันว่า OMEGA เป็นผู้จับเวลาและบันทึกนาทีประวัติศาสตร์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1932 ซึ่งเริ่มต้นจากนาฬิกาจับเวลาสำหรับทุกรายการแข่งขันทั้งหมดเพียง 30 เรือน หลังจากนั้น OMEGA ยังมุ่งมั่นออกแบบ พัฒนา และผลิตอุปกรณ์บอกเวลาเปี่ยมด้วยนวัตกรรมและความแม่นยำอย่างไม่หยุดยั้ง
ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียวปี 2020 OMEGA เตรียมอุปกรณ์บอกเวลาล้ำสมัยสำหรับกีฬาประเภทต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะกีฬาเทควันโดที่ทำคะแนนด้วยความรวดเร็วฉับไว ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใส่เซนเซอร์ของ OMEGA ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งหมวก เกราะ กระทั่งถุงมือกับถุงเท้า เพื่อรวบรวมข้อมูลแรงกด แรงปะทะ และติดตามฟุตเวิร์คอย่างแม่นยำ โดยข้อมูลทุกการเคลื่อนไหวจะถูกส่งไปยังโต๊ะอุปกรณ์ของ OMEGA เพื่อให้กรรมการใช้ประกอบการตัดสินใจและแสดงผลผ่านสกอร์บอร์ด นอกจากนี้ OMEGA ยังสนับสนุนจอแสดงผลการบันทึกภาพเคลื่อนไหวและสกอร์บอร์ด รวมไปถึงสกอร์บอร์ดขนาดเล็กบนลานประลองหรือเสื่อเพื่อการแสดงผลการแข่งขันอย่างยอดเยี่ยม
ดังนั้นแมตช์ประวัติศาสตร์ของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก กีฬาเทควันโดหญิง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม จากการเตะทำ 2 คะแนนในเวลา 7 วินาทีสุดท้ายจนพลิกกลับมาแซงชนะ อาเดรียน่า เซเรโซ่ อิเกลเซียส จากสเปนได้สำเร็จ เป็นบทพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า อุปกรณ์บอกเวลา จับการเคลื่อนไหว และแสดงผลคะแนนของ OMEGA ทำงานได้รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ และสมบูรณ์แบบที่สุด สมกับที่ OMEGA ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จับเวลาการแข่งขันโอลิมปิกอย่างเป็นทางการจวบจนทุกวันนี้
นอกจากกีฬาเทควันโดแล้ว OMEGA ยังบันทึกนาทีประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาในมหกรรมโอลิมปิกครั้งนี้อีกมากมาย ทั้งว่ายน้ำ บาสเกตบอล 3×3 และฟันดาบ ด้วยสุดยอดอุปกรณ์บอกเวลาอันแม่นยำเช่นกัน
