กลไก Tourbillon ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เพื่อแก้ปัญหาความไม่เที่ยงตรงจากแรงโน้มถ่วงของโลกในนาฬิกาพก ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 20 นาฬิกาข้อมือเริ่มได้รับความนิยมและค่อย ๆ เข้ามาแทนที่นาฬิกาพก จึงทำให้กลไก Tourbillon ในนาฬิกาพกค่อย ๆ ถูกลดความสำคัญลง ซึ่งต่อมาในปี 1946 Jaeger-LeCoultre ได้ทำการสร้างกลไก Tourbillon Cal.170 และบรรจุลงในนาฬิกาพกเพื่อทำการวิจัยด้านความเที่ยงตรง ซึ่งต่อมาก็ได้รับรางวัลมากมายในช่วงปี 1948-1950 จนกระทั่งปี 1993 ได้คิดค้นกลไก Tourbillon Cal.828 ที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมสำหรับนาฬิกา Reverso และกลไก Tourbillon ทรงกลมสำหรับนาฬิกา Master Gyrotourbillon 1 ในปี 2004
ต่อมาในปี 2009 Jaeger-LeCoultre ได้เปิดตัวนาฬิกา Master Tourbillon ที่มาพร้อมกับกลไก Cal.978 และได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ซึ่งกลายเป็นกลไกพื้นฐานสำหรับนาฬิกา Flying Tourbillon ของ Jaeger-LeCoultre จนกระทั่งปี 2019 ได้มีการพัฒนากลไก Cal.983 (Base Cal.978) โดยเพิ่มฟังก์ชั่น Moonphase, Jumping Date, Tripple Moonphase Indicator
นาฬิการุ่นใหม่นี้อยู่ในคอลเลกชั่น Master Ultra Thin ตัวเรือน ขนาด 41.5 มิลลิเมตร หนา 12.1 มิลลิเมตร ผลิตจากวัสดุ Le Grand Rose Gold วัสดุชนิดใหม่ที่มีความลึกของสีและทนทานต่อการซีดจางกว่า Rose Gold ทั่วไป หน้าปัดสีขาวนวล ใช้หลักชั่วโมงและชุดเข็มทรง Dauphine วัสดุทองคำ มีการวางกรง Tourbillon ไว้ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา, หน้าต่าง Moonphase พร้อมชุดเข็มชี้ Tripple Moonphase Indicator สำหรับบอกสถานะข้างขึ้นข้างแรมอีกซีกโลก และอีกด้านบอกระยะเวลาการเคลื่อนตัวของดวงจันทร์แบบละเอียดที่ 29 ½ วัน โดยบอกวันที่ด้วยเข็มชี้พร้อมระบบ Jumping Date ที่เคลื่อนวันที่ช่วงระหว่างวันที่ 15-16 เพื่อไม่ให้เข็มวันที่บดบังการทำงานของกลไก Tourbillon
หน้าปัดและฝาหลังแบบโปร่งใสผนึกด้วยกระจก Sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อน โชว์กลไก Automatic Cal.983 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง หรือ 4Hz สำรองพลังงาน 45 ชั่วโมง ที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับ 1,000 ชั่วโมง นาฬิกากันน้ำลึก 50 เมตร มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาลพร้อมระบบ Quick Release
Jaeger-LeCoultre Master Ultra-Thin Tourbillon Moon
Ref.Q1692410
ราคา 2,960,000 บาท
วางจำหน่าย ธันวาคม 2020
รายละเอียดเพิ่มเติม jaeger-lecoultre.com
Initial Thoughts
ด้วยฟังก์ชั่น Moonphase แบบ 2 ซีกโลก พร้อมบอกช่วงเวลาการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์แบบละเอียด ร่วมกับกลไก Tourbillon จึงนับเป็นนาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นในระดับ Grand Complication และเป็นอีกสุดยอดผลงานอลังการจาก JLC แบรนด์ชั้นครูที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของวงการนาฬิกาชั้นสูงของสวิสมาอย่างยาวนาน
