Ulysse Nardin Blast Skeleton Tourbillon สุดยอดนาฬิกาโมเดิร์นคลาสสิกแห่งปี

Ulysse Nardin เปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2020 ในงาน  Geneva Watch Day 2020 ด้วยนาฬิกาที่มีความโดดเด่นในรูปโฉมที่ล้ำสมัย รวมทั้งวัสดุตัวเรือนไฮเทค แต่ยังคงความคลาสสิคของฟังก์ชั่น Tourbillon ซึ่งเป็นกลไกระดับ Grand Complication ที่มีการทำงานซับซ้อนและต้องอาศัยความละเอียดอ่อนในการออกแบบและผลิตขึ้นมา

หน้าปัดแบบ Skeleton ที่มองเห็นกลไกด้านหน้าทะลุไปจนถึงด้านหลัง โดยมีการวางแกนกลางของสะพานจักรเป็นรูปตัว “X” โชว์การทำงานของกลไก Flying Tourbillon ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา และโชว์การทำงานของ Micro Rotor สำหรับขึ้นลานอัตโนมัติที่มีการพิมพ์ตัวเลขและตัวอักษร “47°03’36.2”N, 06°45’12.8”E” ซึ่งเป็นรหัสพิกัดของที่ตั้งสำงานงานใหญ่ของ Ulysse Nardin และมีชุดเข็มบอกเวลาและหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสง Super-Luminova 

ด้วยการออกแบบตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตร หนา 13 มิลลิเมตร ที่มีเส้นสายดูแข็งแกร่งในแบบฉบับของผู้ชาย ใช้วัสดุผสมระหว่าง Ceramic สลับกับ Titanium หรือ 5N Rose Gold ที่ขัดเงาสลับขัดด้านทำให้เกิดจุดตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมแบบเดียวกับรูปทรงของเครื่องบินรบ “Stelth” โดยใช้กระจก Sapphire ทั้งหน้าปัดและฝาหลัง

ด้านหลังโชว์กลไก Automatic Cal.UN-172 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง มีสะพานจักรรูปตัว “X” ตรงแกนกลาง ทำหน้าที่ยึดโยงชุดเฟืองต่างๆที่ถูกฉลุอย่างประณีต โดยใช้เวลาในการผลิตกลไกนานถึง 18 เดือน และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับ Chronometer ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการผลิตกลไก Tourbillon Skeleton ของ Ulysse Nardin 

นาฬิกามาพร้อมสายยางในรุ่น Blast  Blue & White PVD และสายยางประกบหนังจระเข้ในรุ่น Blast Black DLC & 5N Rose Gold พร้อม Self-Deploying Buckle ที่มีทั้งความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานล็อกสายนาฬิกา โดยมีการจดสิทธิบัตรการออกแบบเป็นของ Ulysse Nardin

Ulysse Nardin Blast Skeleton Tourbillon

Ref.T-1723-400/03 Blast Blue 
ราคา 44,000 USD
Ref.T-1723-400/00 Blast White 
Ref.T-1723-400/BLACK Blast Black
ราคา 46,000 USD
Ref.T-1725-400/02 5N Rose Gold
ราคา 54,000 USD
วางจำหน่าย กันยายน 2020 
รายละเอียดเพิ่มเติม ulysse-nardin.com

Initial Thoughts

สุดยอดนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบในรูปแบบล้ำสมัยรวมถึงสุดยอดกลไก Flying Tourbillon แบบ Skeleton ที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกของแบรนด์ และด้วยขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อนมาก ๆ ทำให้ในแต่ละรุ่นผลิตได้ไม่เกิน 100 เรือนต่อปีเท่านั้น จึงนับเป็นนาฬิกาที่น่าจับตามองอีกรุ่นสำหรับนักสะสมตัวจริง