สำหรับ ‘Tuna’ หนึ่งในคอลเลคชั่นของ Seiko Diver’s ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองตลอดกาล ด้วยจุดเริ่มต้นในปี 1975 กับนาฬิกาที่เปลี่ยนมาตรฐานใหม่ของโลก จากตัวเรือนแบบ 2 ชั้น ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกระแทกและทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลด้วยการนำวัสดุ Titanium มาใช้ผลิตนาฬิกาเป็นครั้งแรกของโลก สายยางที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการขยายและหดตัวของข้อมือตามระดับความลึกในขณะดำน้ำ โดยมาพร้อมสิทธิบัตรกว่า 20 ฉบับที่รับรองความเป็นนาฬิกาชั้นนำของโลก
ปีนี้ Seiko เปิดตัวคอลเลคชั่น Prospex Street Series ที่เน้นกลุ่มสตรีทแวร์หรือกลุ่มผู้ชื่นชอบการแต่งตัวในสไตล์ที่เป็นของตัวเอง โดยนำตัวเรือน Tuna สุดคลาสสิคจากยุค 1970s มาใส่รายละเอียดและสีสันในแบบ ‘Urban Safari’ ที่สามารถเข้ากับแฟชั่นที่หลากหลายของชาวสตรีทได้อย่างลงตัว
เริ่มต้นกับรุ่น SRPE29K1 หน้าปัดกับสายซิลิโคนสีเบจ และรุ่น SRPE31K1 หน้าปัดกับสายซิลิโคนสีเทา โดยทั้งสองรุ่นใช้ชุดเข็มชั่วโมง-นาทีและหลักชั่วโมงแบบแท่งที่ตำแหน่ง 1-11 นาฬิกา ยกมาจากรุ่น First Diver’s ส่วนตำแหน่ง 12 นาฬิกาเป็นรูปสามเหลี่ยมจากรุ่น Tuna และเคลือบสารเรืองแสง Lumibrite มีหน้าต่างวัน-วันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา
ตัวเรือน Hard Coating Stainless Steel รมดำ ขนาด 44 มิลลิเมตร หนา 12.7 มิลลิเมตร เม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ขอบ Bezel หมุนได้ทิศทางเดียว Diving Scale สีเดียวกับหน้าปัดสลับกับสีดำที่ช่วง 0-20 นาที ตามมาตรฐานนาฬิกาดำน้ำ ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก 4R36 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 41 ชั่วโมง ใช้กระจกหน้าปัด Hardlex กันน้ำลึก 200 เมตร
ราคา 580 EUR
ต่อด้วยรุ่น SNJ029P1 ตัวเกราะพลาสติกสีดำและสายซิลิโคนสีเบจ และรุ่น SNJ031P1 ตัวเกราะพลาสติกและสายซิลิโคนสีเทาเข้ม โดยทั้งสองรุ่นใช้พื้นฐานตัวเรือนจากรุ่น Arnie ที่ใช้หน้าปัดแบบ Hybrid ที่แสดงผลบอกเวลาแบบ Analog กับ Digital
โดยชุดเข็มและหลักชั่วโมงยกมาจากรุ่น First Diver’s เคลือบสารเรืองแสง Lumibrite สีเบจ ส่วนจอ LED พร้อมไฟเรืองแสง แสดงผลวัน-วันที่-เดือนอัตโนมัติจนถึงสิ้นปี 2100 พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลาละเอียด 1/100 วินาที ต่อเนื่อง 100 ชั่วโมง ตั้งปลุกได้ และมีการแจ้งเตือนเมื่อพลังงานสำรองในแบตเตอรี่เหลือน้อย
ตัวเรือน Hard Coating Stainless Steel รมดำ ขนาด 47.8 มิลลิเมตร หนา 14.4 มิลลิเมตร ขอบ Bezel หมุนได้ทิศทางเดียว กับ Diving Scale นาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก Quartz Cal.H851 ระบบ Solar ที่สามารถชาร์จพลังงานด้วยแสงและสำรองพลังงานได้ยาวนาน 6 เดือนในโหมดประหยัดพลังงาน ใช้กระจกหน้าปัด Hardlex กันน้ำลึก 200 เมตร
ราคา 530 EUR
นาฬิกาทุกรุ่นวางจำหน่าย กรกฎาคม 2020
รายละเอียดเพิ่มเติม seikowatches.com
Initial Thoughts
ถึงแม้ว่ากลุ่มเป้าหมายของนาฬิกาทั้ง 2 รุ่น ในคอลเลคชั่นนี้จะเป็นชาวสตรีทแวร์ แต่ด้วยสีสันออกแนวเอิร์ธโทนทำให้เข้ากับการแต่งตัวได้หลากหลาย ซึ่งแฟน Seiko Tuna ที่อาจจะไม่ใช่สายสตรีทแวร์โดยตรงก็สามารถสวมใส่ใช้งานได้สบายๆในทุกโอกาสแน่นอน