ย้อนกลับไปในปี 1957 Piaget เปิดตัวกลไกไขลาน Cal.9P ที่มีความหนาเพียง 2 มิลลิเมตร และตามมาด้วยกลไก Automatic Cal.12P ที่มีความหนาเพียง 2.3 มิลลิเมตร ในปี 1960 ด้วยสถิติกลไกที่มีความบางที่สุดในโลกในขณะนั้น และทำให้ Piaget กลายเป็นผู้นำในการพัฒนาและผลิตกลไกบางเฉียบแห่งวงการนาฬิกา
ในงาน SIHH 2018 ที่ผ่านมา Piaget ได้สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง ด้วยการเผยโฉมนาฬิกา Altiplano Ultimate Concept หรือ AUC ด้วยเทคนิคการออกแบบอย่างเหนือชั้นทำให้นาฬิกามีความหนาเพียง 2 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่ทาง Piaget ยังไม่ได้วางจำหน่ายแต่อย่างใดและเป็นเพียงนาฬิกาคอนเซ็ปต์เท่านั้น
ล่าสุดนาฬิกา Altiplano Ultimate Concept หรือ AUC ก็ไม่ได้เป็นเพียงนาฬิกาคอนเซ็ปต์อีกต่อไป เพราะในงาน Watches & Wonders 2020 Piaget พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว AUC อย่างเป็นทางการในฐานะนาฬิกาที่บางที่สุดในโลก ด้วยโครงสร้างตัวเรือนแบบชิ้นเดียวที่ทำหน้าที่เหมือนแท่นเครื่อง ผลิตจากวัสดุ Cobalt Alloy ขนาด 41 มิลลิเมตร ที่พัฒนาให้มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าทองคำ 2.3 เท่า ทำให้ไม่เกิดอาการโค้งงอเมื่อใช้งานจริง ชิ้นส่วนเฟืองจักรหนาเพียง 0.12 มิลลิเมตร (เฟืองจักรแบบเดิมหนา 0.20 มิลลิเมตร) กระจกหน้าปัดหนาเพียง 0.2 มิลลิเมตร (กระจกหน้าปัดแบบเดิมหนา 1.0 มิลลิเมตร)
หน้าปัดแบบเยื้องศูนย์กลางบอกเวลาด้วยเข็มชั่วโมงแบบ Indicator Disc และเข็มนาทีแบบปกติ ด้วยโครงสร้างกลไกแบบกลับด้าน ทำให้สะพานจักรที่ถูกขัดแต่งอย่างประณีตทุกเหลี่ยมมุมถูกย้ายมาติดตั้งไว้ทางด้านหน้าทั้งหมด เม็ดมะยมระบบ Telescopic ทำงานร่วมกับระบบ Infinite Screw ที่ออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวเรือน กระปุกลานออกแบบใหม่โดยไม่มีฝาครอบและยึดติดกับตัวเรือนโดยตรงทำให้มีความบางเฉียบแต่ยังสำรองพลังงานได้มากถึง 40 ชั่วโมง ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำหรับกลไกไขลาน Cal.900P-UC
นาฬิกามาพร้อมสายหนังที่บุด้านในด้วยเส้นใย Kevlar ที่มีความแข็งแรงทนทานและบางเพียง 1.5 มิลลิเมตรเท่านั้น พร้อมกับหัวเข็มขัด Cobalt Alloy
Piaget Altiplano Ultimate Concept
ราคาเริ่มต้น 410,000 CHF
โดยสามารถเลือกปรับแต่งสีสันของ Bridge และหน้าปัด, ขัดแต่งเข็มนาทีและ Main Plate รวมถึงเลือกสายนาฬิกาที่เข้ากับสไตล์ของตนเอง เรียกได้ว่าสามารถปรับเปลี่ยนลูกเล่นได้มากกว่า 10,000 แบบ ให้เข้ากับสไตล์ของตนเอง
รายละเอียดเพิ่ม piaget.com
Initial Thoughts
จากนาฬิกาคอนเซ็ปต์ที่ผ่านขั้นตอนคิดค้นและออกแบบถึง 4 ปี และผ่านขั้นตอนเชิงวิศวกรรมและทดสอบกับการใช้งานจริงอีก 2 ปี จนสามารถผลิตนาฬิการุ่นนี้ออกมาวางจำหน่าย และสร้างสถิตินาฬิกาเรือนบางที่สุดในโลกในปัจจุบันได้สำเร็จ ที่สุดทั้งรูปร่างหน้าตาและราคาจริงๆ
