SEIKO เปิดตัวนาฬิกาดำเรือนแรกของญี่ปุ่นในปี 1965 และเป็นเวลากว่า 50 ปี ที่ยังคงมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำสำหรับมืออาชีพและนักผจญภัยที่ต้องการนาฬิกาที่พร้อมจะลุยไปทุกที่ด้วยความมั่นใจ โดยนาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพของ SEIKO ผ่านมาตรฐานจาก JIS (มาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น) และ ISO (องค์การมาตรฐานสากล) จึงทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพได้อย่างแน่นอน
วิวัฒนาการของนาฬิกาดำน้ำ SEIKO เริ่มต้นจากรุ่น 6217-8000 ในปี 1965 ที่มีความสามารถกันน้ำได้ลึก 200 เมตร และเคยเป็นนาฬิกาของทีมสำรวจทวีป Antarctic ในปี 1966 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่านาฬิกาสามารถใช้งานได้ทั้งการดำน้ำ การผจญภัย และการบิน
ต่อมามีการพัฒนานาฬิการุ่น 6159-7001 ในปี 1968 โดยใช้กลไก Hi-Beat ที่มีความถี่สูงสุดของโลกในยุคนั้น และใช้ตัวเรือนนาฬิกาแบบชิ้นเดียวที่สามารถกันน้ำลึกถึง 300 เมตร และในปี 1970 คุณ Naoki Uemura กับคุณ Teruo Matsuura นักปีนเขาชาวญี่ปุ่นเคยสวมใส่นาฬิการุ่นนี้พิชิตยอดเขา Everest มาแล้ว
ช่วงปี 1968 SEIKO ได้รับจดหมายฉบับจากนักดำน้ำมืออาชีพชาวเมือง Kure จังหวัด Hiroshima ว่านาฬิกาดำน้ำ SEIKO ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่สามารถต้านทานแรงดันจากก๊าซ Helium ได้เนื่องจากมีการใช้งานดำน้ำที่ลึกกว่า 300 เมตร ทาง SEIKO จึงได้ตั้งทีมขึ้นมาเพื่อพัฒนานาฬิกาดำน้ำที่สามารถตอบสนองการใช้งานที่สูงขึ้น จนสามารถผลิตนาฬิกาดำน้ำลึก 600 เมตร รุ่น 6159-7010 โดยใช้ตัวเรือน Titanium รุ่นแรกของโลกได้สำเร็จในปี 1975
ในปี 2020 SEIKO เฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี นาฬิกาดำน้ำของแบรนด์ ด้วยการนำนาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพระดับตำนานทั้ง 3 รุ่น มาผลิตในแบบ Re-Creation หรือย้อนยุคจากรุ่นดั้งเดิมจากนาฬิกายุค 1965-1975 โดยเลือกใช้หน้าปัดและสายยางสีน้ำเงินเป็นสีธีมของนาฬิการุ่นพิเศษเซตนี้
SEIKO Prospex Diver’s Watch 55th Anniversary Limited Edition
1965 Mechanical Diver’s Watch Re-Creation
Ref.SLA037
ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 39.9 มิลลิเมตร หนา 14.7 มิลลิเมตร โดยนำรูปแบบมาจากนาฬิการุ่น 6217 จากปี 1965 เลือกใช้หน้าปัดและสายซิลิโคนสีน้ำเงินพร้อม Pin Buckle ฝาหลังแบบขันเกลียวสลักหมายเลขประจำเรือน XXXX/1100 กันน้ำลึก 200 เมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.8L55 ความถี่ 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง หรือ 5Hz สำรองพลังงาน 55 ชั่วโมง
ผลิตแบบจำนวนจำกัด 1,100 เรือน
ราคา 244,500 บาท
วางจำหน่าย มิถุนายน 2020
SEIKO Prospex Diver’s Watch 55th Anniversary Limited Edition
1968 Mechanical Diver’s Watch Re-Creation
Ref.SLA039
ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 44.8 มิลลิเมตร หนา 15.7 มิลลิเมตร โดยนำรูปแบบมาจากนาฬิการุ่น 6215 จากปี 1968 เลือกใช้หน้าปัดและสายซิลิโคนสีน้ำเงินพร้อม Pin Buckle ตัวเรือนแบบชิ้นเดียวกับฝาหลังที่สลักหมายเลขประจำเรือน XXXX/1100 กันน้ำลึก 300 เมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.8L55 ความถี่ 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง หรือ 5Hz สำรองพลังงาน 55 ชั่วโมง
ผลิตแบบจำนวนจำกัด 1,100 เรือน
ราคา 295,200 บาท
วางจำหน่าย สิงหาคม 2020
SEIKO Prospex Diver’s Watch 55th Anniversary Limited Edition
1975 Mechanical Diver’s Watch Re-Creation
Ref.SLA041
ตัวเรือน Titanium พร้อมเกราะ Ceraic ขนาด 52.4 มิลลิเมตร หนา 17.2 มิลลิเมตร โดยนำรูปแบบมาจากนาฬิการุ่น 6159 จากปี 1975 เลือกใช้หน้าปัดสีน้ำเงิน โดยระบุตัวอักษร ‘Magnatic Resistant 4000 A/m’ สีแดงบนหน้าปัดและสายซิลิโคนสีน้ำเงินพร้อม Pin Buckle ตัวเรือนแบบชิ้นเดียวกับฝาหลังที่สลักหมายเลขประจำเรือน XXXX/1100 กันน้ำลึก 1,000 เมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.8L35 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง หรือ 4Hz สำรองพลังงาน 50 ชั่วโมง
ผลิตแบบจำนวนจำกัด 1,100 เรือน
ราคา 193,900 บาท
วางจำหน่าย กันยายน 2020
SEIKO Prospex Diver’s Watch 55th Anniversary Limited Edition
1965-1975 Mechanical Diver’s Watch Re-Creation Trilogy Collection Box
Box Set รุ่นพิเศษที่ขายพร้อมกับนาฬิกาทั้ง 3 รุ่น ผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 100 ชุด
ราคา 749,000 บาท
วางจำหน่ายเฉพาะที่ Seiko Watch Salon
ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2020
รายละเอียดเพิ่มเติม seikowatches.com
Initial Thoughts
ครบรอบ 55 ปี Diver’s Watch รอบนี้ SEIKO จัดหนักจัดเต็มด้วยการน้ำนาฬิกาดำน้ำในตำนานที่กลายเป็นต้นแบบนาฬิกาดำน้ำในปัจจุบันมาผลิตแบบย้อนยุคอีกครั้ง โดยใช้สีน้ำเงินเป็นสีธีมทั้งหมด นับว่าทำออกมาได้สวยงามจริงๆ คาดว่าแฟน SEIKO ทั่วโลกที่เคยมีนาฬิกาทั้ง 3 รุ่นนี้ในเวอร์ชั่นก่อนหน้า น่าจะต้องควักกระเป๋าเพื่อซื้อนาฬิกาลิมิเต็ดชุดนี้อย่างแน่นอน แต่จะเลือกเก็บรุ่นไหนคงต้องแล้วแต่ความชอบส่วนตัว แต่ถ้าใครใจร้อนอยากเป็นเข้าของก่อนใครหรือคิดว่าไม่อยากรักพี่เสียดายน้องจะเก็บแบบ Trilogy Collection Box แบบเซต 3 เรือนพร้อมกันก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด