Omega เปิดตัวนาฬิกาสุดยอดความเบา Seamaster Aqua Terra “Ultra Light”

ถ้าพูดถึงวัสดุที่ทำให้นาฬิกามีน้ำหนักเบาและแข็งแรงพอสำหรับการใช้งานจริง เราจะนึกถึง Titanium ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพียงชิ้นส่วนหลักเท่านั้น เช่น ตัวเรือนหรือสายนาฬิกา  แต่วันนี้ Omega เพิ่มความเบาในระดับ “Ultra” ด้วยการใช้ Titanium เกือบจะทุกส่วนของนาฬิกาเรือนนี้ 

วัสดุตัวเรือนชนิดใหม่นี้ Omega เรียกว่า Gamma Titanium หรือโลหะผสม Titanium Aluminide (TiAl) ใช้ในอากาศยาน มีคุณสมบัติที่เบาและแข็งแรง โดยเป็นครั้งแรกในการนำวัสดุชนิดนี้มาใช้กับนาฬิกา 

ขนาดตัวเรือน 41mm แต่มีน้ำหนักเบาเพียง 55g เท่านั้น เมื่อใช้ร่วมกับสายผ้าน้ำหนักเบาพิเศษ ขัดแต่งแบบ Sand Blasted ทำให้ได้ผิวตัวเรือนแบบเม็ดทรายละเอียดและลดแสงสะท้อนได้ดี ขอบ Bazel แบนบาง และระบบเม็ดมะยมแบบใหม่ “Push-in Crown” ที่ใช้การกดสไลด์ลงไปแทนมะยมขันเกลียว

หน้าปัดสีเทา ใช้วัสดุ Titanium Grade 5 ที่มีความเบาเป็นพิเศษ ขัดแต่งแบบ Sand Blasted เหมือนตัวเรือน และเซาะร่องเป็นแถบแนวขวางเพื่อลดน้ำหนักและสร้างมิติให้กับหน้าปัดตามรูปแบบหลักของ คอลเลคชั่น Seamaster Aquaterra ได้อย่างลงตัว และสร้างความโดดเด่นบนหน้าปัดด้วยการใส่สีลงไปบนเข็มวินาทีอลูมิเนียม, ชื่อรุ่น ‘Seamaster’ และตำแหน่ง 15-30-45-60 นาที โดยใช้สีเดียวกับด้ายที่เย็บลงไปบนสายนาฬิกา

ฝาหลังขันเกลียวแบบโปร่งใส โชว์กลไกไขลาน in-house Omega Cal.8928 Co-Axial Escapement ใช้วัสดุ titanium ในส่วนของแท่นเครื่องและสะพานจักรเพื่อน้ำหนักเบา เดินด้วยความถี่ 25,200vph สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง ป้องกันสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000gauss และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer by METAS 

นาฬิกามาพร้อมสายยางสีดำเย็บด้ายสีฟ้า, แดง, เขียว ให้เลือก และ Titanium folding buckle ใช้กระจก sapphire เคลือบตัดแสงสะท้อนทั้งด้านในและด้านนอก กันน้ำลึก 150 เมตร หรือ 500 ฟุต และมีสายผ้าแบบเบาพิเศษมาให้ในเซตอีกด้วย 

Omega Seamaster Aquaterra “Ultra Light” มีให้เลือก 3 สี ได้แก่

สีฟ้า  ref.220.92.41.21.06.002
สีแดง ref.220.92.41.21.06.001
สีเขียว ref.220.92.41.21.06.003

ราคา 1,690,000 บาท  วางจำหน่ายต้นปี 2020 

Initial Thoughts 

เป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ของวงการนาฬิกา ที่ Omega นำวัสดุจากวงการอากาศยานมาใช้ในการผลิตนาฬิกาเป็นรายแรก ทำให้ได้นาฬิกาที่มีความเบาและแข็งแรงมากสำหรับการใช้งานแบบนาฬิกาสปอร์ต 

เม็ดมะยมแบบ “Push-in Crown” ที่ใช้การสไลด์ลงไปเพื่อกันน้ำและซ่อนเม็ดมะยมลงไปใน crown guard ได้อย่างแนบเนียน ทำให้สวมใส่ได้อย่างสบาย โดยที่เม็ดมะยมไม่ค้ำยันหรือกดบนข้อมือเวลาพับหรือพลิกข้อมือไปมา แถมยังกันน้ำได้ในระดับเดียวกับมะยมขันเกลียวอีกด้วย 

กลไกไขลานใช้วัสดุหลักเป็นไทเทเนียมมาทำเป็นแท่นเครื่องและสะพานจักร ทำให้ลดน้ำหนักให้กับนาฬิกาเรือนนี้ได้มาก และเป็นอีกความแปลกใหม่ของวงการนาฬิกา

โดยรวมสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ สร้างความแตกต่างทางด้านวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยีการผลิตให้กับวงการนาฬิกา น่าใช้งานและสะสม แต่ต้องแลกมากับราคาที่สูงมากตามไปด้วย