ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นาฬิกาสักรุ่นจะเดินทางมาถึงครึ่งศตวรรษได้ต่อเนื่องยาวนานขนาดนี้ แสดงว่านาฬิการุ่นนั้นจะต้องมีเอกลักษณ์ คุณภาพ ความโดดเด่น และความคลาสสิคที่ยอมรับกันในระดับสากล
“Monaco” เปิดตัวครั้งแรกในปี 1969 พร้อมกับกลไกชื่อว่า “Chronomatic cal.11” กลไกจับเวลาแบบขึ้นลานอัตโนมัติ (Automatic Chronograph) รุ่นแรกของโลก
โดยเกิดจากการร่วมมือกัน ระหว่าง Heuer, Breitling, Hamilton-Buren, Dubois-Depraz ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้น และเป็นรากฐานส่งต่อมาสู่กลไก Automatic Chronograph ในปัจจุบัน
Heuer Monaco ได้รับความนิยมมาตลอด เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นคือ ตัวเรือนสี่เหลี่ยมจัตุรัส เม็ดมะยมด้านซ้าย จับเวลาได้ต่อเนื่อง 30 นาที และเป็นที่นิยมในวงการมอเตอร์สปอร์ตยุคนั้น
แม้กระทั่งดาราดังอย่าง Steve McQueen ก็เคยใส่นาฬิการุ่นนี้ในภาพยนตร์เรื่อง Le Mans ปี 1971 จนได้รับฉายาว่า McQueen Watch
ปี 2019 TAG Heuer เปิดตัว Monaco 1969-1979 Special Edition ฉลองครบรอบ 50 ปี โดยคงเอกลักษณ์ของรุ่น original เอาไว้ครบถ้วน
ตัวเรือนสเตนเลสสตีลสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขัดด้านสลับเงา ขนาด 39×39 มม. กระจกแซฟไฟร์แบบโดม เม็ดมะยมอยู่ด้านซ้ายของตัวเรือน ปุ่มกดจับเวลาด้านขวา วงจับเวลา 2 วงในตำแหน่ง 3 และ 9 น. มาพร้อมสายหนังสีน้ำตาลเจาะรูขนาดเล็กพร้อมบัคเคิลแบบบานพับโลโก้ HEUER แบบวินเทจ กันน้ำ 100 เมตร
จุดเด่นที่สุดของนาฬิกาเรือนนี้อยู่ที่หน้าปัดสีเขียวมะกอกขัดลาย Côtes de Genève สลับกับ sunray สีเทา ในวงจับเวลา มีการเล่นสีระหว่างเหลืองกับน้ำตาลที่เข็มและมาร์กเกอร์ตามเอกลักษณ์ของนาฬิกาในยุค 1970s
ฝาหลังทึบยึดด้วยสกรู 4 ตัว มีโลโก้ “MONACO-HEUER” แบบวินเทจ ระบุชื่อรุ่น “1969-1979 Special Edition” โดยผลิตแบบจำนวนจำกัด 169 เรือน ระบุเป็น ” One of 169″ แทนการรันเลขประจำเรือน
กลไกจับเวลาขึ้นลานอัตโนมัติ TAG Heuer cal.11 (Base Sellita SW300) ประกบกับชุดกลไกจับเวลา Dubois-Depraz คล้ายกลไก Chronomatic cal.11 ปี 1969 เดินด้วยความถี่ 28,800 vph อ่านค่าจับเวลา 30 นาทีที่ตำแหน่ง 9 น. และเข็มวินาทีที่ตำแหน่ง 3 น. พร้อมวันที่ในตำแหน่ง 6 น.
ราคา 6,550 USD สามารถสั่งจองได้ที่ TAG Heuer Boutiqe ทั่วโลก
สำหรับผู้ที่สนใจคงต้องรีบติดต่อบูติกใกล้บ้าน เพราะตอนนี้การสั่งจองออนไลน์ผ่าน tagheuer.com หมดไปแล้ว แสดงให้เห็นว่านาฬิกาเรือนนี้ถูกใจนักสะสมจริงๆ