SEIKO วางตำแหน่งนาฬิกาสปอร์ตของตัวเองไว้ในชื่อ Prospex (มาจากคำว่า Professional + Specfication) โดยแบ่งเป็น ระดับเริ่มต้น ระดับกลาง ระดับสูง ซึ่งในงาน Baselworld 2019 แบรนด์ SEIKO เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของ Prospex ในระดับสูง โดยเชิญคุณ Ken Okuyama นักออกแบบชื่อดังที่เคยฝากผลงานการออกแบบรถ super car ระดับตำนานอย่าง Ferrari Enzo และ Honda NSX 1st Generation มาร่วมออกแบบคอลเลคชั่น Prospex LX Line
“จุดประสงค์การออกแบบของผมอยู่ที่การนำเอาเอกลักษณ์และความสมบูรณ์แบบจากอดีตของ SEIKO ที่ผลิตนาฬิกาสปอร์ตมาหลายทศวรรษ ดีไซน์ของความเรียบง่าย ความกลมกลืน ความทรงพลัง ยังคงอยู่มาตลอด Prospex LX Line คือ SEIKO ที่ยังคงให้ความรู้สึกร่วมสมัยอยู่เสมอ” คุณ Ken Okuyama กล่าวไว้
ชื่อ LX ย่อมาจากคำว่า Lux (ลุกซ์) ในภาษาละตินแปลว่า “แสง” ที่ผู้ออกแบบต้องการจะสื่อถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยแสดงถึงความละเอียดอ่อนของแสงสะท้อนที่แผ่ออกไปยามตกกระทบกับพื้นผิวของตัวเรือน
ตัวเรือนและหน้าปัดของ Prospex LX Line ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากนาฬิการุ่น 6215-7000 ปี 1968 ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของนาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพของ SEIKO
SEIKO Prospex LX Line แบ่งออกเป็น 3 version ดังนี้
Sea Version
นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพ ด้วยการกันน้ำลึกระดับ 300m ขอบสเกลคำนวณเวลาใต้น้ำแบบทิศทางเดียวเพื่อความปลอดภัย สายเหล็กมี extention link ที่สามารถขยายออกเพื่อสวมกับ wet suit
SNR029 ตัวเรือนและสาย Hard coating Titanium ปัดเงาสลับด้าน ขอบสเกลดำน้ำเซรามิกสีดำเงา เข็ม มาร์กเกอร์ ยกมาจากปี 1968 มีเข็ม power reserved ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Spring Drive ทุกรุ่นตรงตำแหน่ง 8 น.
SNR031 ตัวเรือน Black hard coating Titanium กับสายซิลิโคนสีดำ ขอบสเกลดำน้ำเซรามิกสีดำด้าน ตัวอักษรบนหน้าปัดจะสีเข้มกว่าและเข็มเป็นสีดำ
ทั้งสองรุ่นขนาดหน้าปัด 44.8mm หนา 15.7mm พร้อมกระจกแซฟไฟร์เคลือบตัดแสงสะท้อน ใช้กลไก Spring Drive cal.5R65 สำรองลาน 72 ชั่วโมง ความคลาดเคลื่อน +/- 15 วินาที/เดือน เม็ดมะยมตำแหน่ง 4 น.และฝาหลังเกลียว กันน้ำ 300 เมตร
Air Version
นาฬิกาสำหรับนักบินมืออาชีพ หรือผู้ที่ต้องเดินทางข้ามโซนเวลาบ่อยๆ ขอบสเกลสามารถหมุนได้ 2 ทิศทางเพื่อความรวดเร็วในการปรับเวลาในช่วงของการข้ามโซนเวลา หรือดูเวลาพร้อมกัน 2 ประเทศ
SNR033 ตัวเรือนและสาย Hard coating Titanium ปัดเงาสลับด้าน ขอบสเกล GMT 24 ชั่วโมง เซรามิกสีน้ำเงิน-ดำเงา หน้าปัดสีน้ำเงินพร้อมสเกล 24 ชั่วโมงด้านในหน้าปัด มาร์กเกอร์และเข็มสีเงิน เข็ม GMT สีแดง พร้อมพรายน้ำ super luminova เข็ม power reserved ตรงตำแหน่ง 8 น.
SNR035 ตัวเรือน Black hard coating Titanium พร้อมสายหนัง ขอบสเกล GMT 24 ชั่วโมงสีดำด้าน หน้าปัดสีดำ พร้อมสเกล 24 ชั่วโมงสลับกับนาที เข็มชั่วโมง, นาที, วินาที, GMT เป็นสีดำพร้อมพรายน้ำ Luminova ตัวอักษรสีเข้ม
ทั้งสองรุ่นขนาดหน้าปัด 44.8 หนา 14.7mm พร้อมกระจกแซฟไฟร์เคลือบตัดแสงสะท้อน ใช้กลไก Spring Drive GMT cal.5R66 สำรองลาน 72 ชั่วโมง ความคลาดเคลื่อน +/- 15 วินาที/เดือน เม็ดมะยมตำแหน่ง 4 น.และฝาหลังเกลียว กันน้ำ 100 เมตร
Land Version
นาฬิกาสำหรับนักสำรวจมืออาชีพ ที่ต้องเดินทางไปในที่ทุรกันดารที่ต้องใช้แผนที่และเข็มทิศประกอบการเดินทาง ดูเวลา 24 ชั่วโมงที่ขอบสเกลด้านในแทนในกรณีที่ต้องสำรวจในพื้นที่ๆไม่รู้ว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืน เช่น สำรวจถ้ำลึกหรือขั้วโลก
SNR025 ตัวเรือนและสาย Hard coating Titanium ปัดเงาสลับด้าน ขอบ Titanium มีสเกลที่ใช้ร่วมกับเข็มทิศ และพรายน้ำตรงตำแหน่ง 12 น. หน้าปัดสีดำด้าน พร้อมสเกล 24 ชั่วโมงสีเหลือง เข็มชั่วโมง, นาที, วินาทีมาร์กเกอร์สีเงิน เข็ม 24 ชั่วโมงสีเหลืองโดดเด่นชัดเจน พร้อมพรายน้ำ super luminova เข็ม power reserved ตรงตำแหน่ง 8 น.
SNR027 ตัวเรือน Black hard coating Titanium พร้อมสายหนัง ขอบ Titanium มีสเกลที่ใช้ร่วมกับเข็มทิศ และพรายน้ำตรงตำแหน่ง 12 น. หน้าปัดสีดำด้าน พร้อมสเกล 24 ชั่วโมงสีเทาเข้มสลับนาที เข็มชั่วโมง, นาที, วินาทีสีดำ เข็ม 24 ชั่วโมงสีดำ พร้อมพรายน้ำ super luminova
ทั้งสองรุ่นขนาดหน้าปัด 44.8 หนา 14.7mm พร้อมกระจกแซฟไฟร์เคลือบตัดแสงสะท้อน ใช้กลไก Spring Drive GMT cal.5R66 สำรองลาน 72 ชั่วโมง ความคลาดเคลื่อน +/- 15 วินาที/เดือน เม็ดมะยมตำแหน่ง 4 น.และฝาหลังเกลียว กันน้ำ 100 เมตร
SEA Version
SNR029J ราคา 216,600 บาท , SNR031J ราคา 216,600 บาท
LAND Version
SNR025J ราคา 185,000 บาท , SNR027J ราคา 185,000 บาท
AIR Version
SNR033J ราคา 198,500 บาท , SNR035J ราคา 202,300 บาท
วางจำหน่าย: กรกฎาคม 2019